xs
xsm
sm
md
lg

รธน.ผ่าน-ศรัทธา “ประยุทธ์” ล้น “คนชั่ว” ต้องป่วนให้ฉิบหาย !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา


ยังไม่รู้ว่าใครคือ “คนชั่ว” ไม่รู้ว่าใครคือ “มาร” เพราะยังไม่ผลีผลามด่วนสรุปว่าใครหรือกลุ่มไหนกันแน่ เพราะต้องพิจารณาจากหลักฐานและข้อเท็จจริงผ่านทางพนักงานสอบสวนอย่างเป็นทางการเสียก่อน แต่เท่าที่เห็นก็มีทางฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร ที่แถลงผ่านทาง นพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่เป็นคนใกล้ชิดว่าภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะส่งทนายความไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ข้อความในโลกโซเชียลกล่าวหาให้ร้ายว่า ทักษิณ ชินวัตร อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

โดย นพดล ปัทมะ ย้ำว่า นี่คือ การใส่ร้ายและหมิ่นประมาทบุคคลอื่นด้วยความเท็จ และในสถานการณ์ที่เปราะบาง บ้านเมืองต้องการความรักความสามัคคี การโหมกระพือความเท็จและวาทกรรมเพื่อสร้างความเกลียดชังเพื่อใส่ร้ายกันและกันนั้น สังคมไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

“ทุกคนที่เป็นอดีตนายกฯรักและห่วงใยประเทศคงไม่มีใครทำชั่วเช่นนั้น” นั่นคือ คำพูดของ นพดล ปัทมะ คนใกล้ชิดของ ทักษิณ ชินวัตร

เหตุการณ์ลอบวางระเบิด และวางเพลิงในภาคใต้ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมต่อเนื่อง ไปถึงวันที่ 12 สิงหาคม ได้สร้างความตื่นตระหนกระคนมาพร้อมกับความโกรธของคนไทยส่วนใหญ่ เนื่องจากกลุ่ม “คนชั่ว” ได้เลือกเอาช่วง “วันสำคัญ” และพื้นที่การท่องเที่ยวในหลายจังหวัดทางภาคใต้ ด้วยเจตนาที่ต้องการทำลายในเชิงสัญลักษณ์และทำลายเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้ย่อยยับ เนื่องจากทราบดีว่าการท่องเที่ยวกำลังเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจประเทศในเวลานี้

เหตุการณ์ลอบวางระเบิดและวางเพลิงดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก อย่างไรก็ดีเมื่อคาดการณ์กันถึงเป้าหมายว่ามีเจตนาเพื่อทำลายล้าง แต่สำหรับสาเหตุที่ต้องลงมือในคราวนี้ แม้ว่ายังไม่ชัดเจน เพราะยังต้องรอการสรุปออกมาอย่างเป็นทางการเสียก่อน แต่จากการสรุปเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่การลอบวางระเบิดในทุกจุดมีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งนั่นเท่ากับว่า น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มการเมือง เกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างชัดเจนที่สุด เพียงแต่ว่ายังไม่บอกว่าเป็นกลุ่มไหนเท่านั้นเอง

แต่นาทีนี้ เชื่อเหลือเกินว่าคนส่วนใหญ่สรุปฟันธงมาตั้งแต่เสียงระเบิดและควันไม่ทันจางด้วยซ้ำไปว่าเป็นฝีมือกลุ่มไหนและใครเป็น “คนชั่ว” คนบงการ

หลายคนเชื่อมาตั้งแต่ต้นแล้วว่ามูลเหตุน่าจะมาจากกลุ่มการเมืองที่เสียประโยชน์จากร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านการทำประชามติเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น เพราะหากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้มีผลบังคับใช้ก็จะทำให้พวกเขาหมดอนาคตทันที เพราะด้วยเนื้อหาที่กำหนดคุณสมบัติต้องห้ามทางการเมืองที่ห้ามขาดบุคคลที่เคยต้องคดีทุจริต ถูกยึดทรัพย์ เป็นต้น คนที่มีประวัติประเภทนี้จะถูกห้ามลงสนามตลอดชีวิต อีกทั้งมีการควบคุมและลดบทบาทของนักการเมืองไปกว่าเดิม และที่สำคัญ เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่าน นั่นก็แสดงให้เห็นว่า ความศรัทธาและบารมีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ สูงเด่นขึ้นไปอีก

ที่น่าสนใจก็คือ ในบทเฉพาะกาล 5 ปี และในคำถามพ่วงที่ผ่านประชามติได้ให้อำนาจ คสช. แต่งตั้งส.ว. จำนวน 250 คน ร่วมโหวตนายกฯจากคนนอกได้ด้วย แม้จะไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นใคร แต่ก็พอมองเห็นรำไรบ้างแล้ว และน่าสังเกตก็คือ ในกำหนดบทเฉพาะกาลไว้ 5 ปี ขณะที่ ส.ส. มีวาระ 4 ปี นั่นเท่ากับว่า ส.ว. ดังกล่าวได้อยู่ร่วมโหวตเลือกนายกฯได้ถึงสองครั้ง ขณะเดียวกัน การผ่านประชามติคราวนี้มันเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าชาวบ้านไม่ได้ยี่หระ หรือสนใจพวกนักการเมืองเลย ไม่ได้ให้ความสำคัญกับพวกนายกมาจากการเลือกตั้งมากนัก นั่นคือ ไม่ได้บูชาลัทธิเลือกตั้งเหมือนเมื่อก่อน

ผลของการลงประชามติดังกล่าว มันก็ย่อมเห็นชัดเจนว่า หายนะจะตกอยู่กับพวกนักการเมืองกลุ่มไหนหรือพรรคการเมืองไหน ขณะเดียวกัน มันก็มองเห็นแนวโน้มของความต่อเนื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ชัดเจนมากขึ้น โดยเป็นความต่อเนื่องที่ผ่านการรับรองของรัฐสภาเสียด้วย

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือ การให้คำมั่นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนหน้านี้ ว่า คดีความต่าง ๆ จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมภายในสิ้นปี 59 หรืออย่างช้าไม่เกินต้นปีหน้า ทุกคดีจะให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาดจะไม่มีการออกกฎหมายนิรโทษ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาตามมา

ดังนั้น ทั้งเรื่องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ผ่านประชามติ ซึ่งมีผลต่ออนาคตของพวกเขา การถูกไล่รื้อดำเนินคดีสำคัญให้เข้าสู่การพิจารณาตัดสินของศาล โดยไม่มีอนาคตในเรื่องการออกกฎหมายลบล้างความผิดให้มันก็น่าจะเป็นสาเหตุของการลงมือป่วนแบบทำลายล้างในเหตุการณ์ร้ายเมื่อวันที่ 10 ต่อเนื่องมาถึงวันที่ 12 สิงหาคม แม้ว่าจะไม่สรุปว่า “คนชั่ว” จะเป็นใคร แต่เชื่อว่าชาวบ้านเขาสรุปและพอมองออกและฟันธงกันไปล่วงหน้าแล้ว

ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งมันก็ส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความมั่นคงมากขึ้นไปอีก และเชื่อว่า ยิ่งมีพลังในการกำจัดคนชั่วได้อย่างเต็มที่ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น