xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.เตือนเอา ส.ว.มาเลือกนายกฯ ระวังรัฐบาลอายุสั้น คาด “เพื่อไทย” ล็อบบี้พรรคเล็กคานอำนาจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ (ภาพจากแฟ้ม)
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เตือนเอา ส.ว.มาโหวตนายกฯ หัดดูเสียง ส.ส.ด้วย ไม่เช่นนั้นรัฐบาลอยู่ไม่นาน ชี้ไม่มีพรรคไหนได้เสียงครึ่งหนึ่งของสภาฯ คาดคงโหวตตรงข้ามเพื่อไทย แล้วเจอแก้เกมเอาพรรคเล็กมาคาดอำนาจ ระบุประชาคมโลกจะมองเป็น “รัฐบาลกึ่งทหาร” แนะอย่าบิดเบี้ยวประชาชนที่เลือก ให้พรรคอันดับ 1 ตั้งรัฐบาลก่อน เห็นด้วยหากถึงทางตันค่อยแก้รัฐธรรมนูญ

วันนี้ (9 ส.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ระบุว่า สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะต้องเลือกนายกรัฐมนตรี โดยต้องคำนึงถึงเสียงของ ส.ส.ด้วย เพราะมิฉะนั้นนายกรัฐมนตรีจะอยู่ได้ไม่นาน เนื่องจากขาดเสียงสนับสนุนของ ส.ส.ส่วนมาก ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและตามคำถามพ่วงประกอบประชามติ ที่นายกรัฐมนตรีจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ด้วย แต่จากเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้คงไม่มีพรรคการเมืองไหนได้เสียงครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร

ดังนั้น การจัดตั้งรัฐบาลก็จะออกมาใน 2 รูปแบบ คือ รูปแบบแรก พรรคคะแนนลำดับที่ 1 จับมือกับพรรคที่ได้คะแนนลำดับ 3-6 เป็นต้น ส่วนพรรคที่คะแนนลำดับ 2 ก็เป็นฝ่ายค้านไป และรูปแบบที่ 2 คือพรรคคะแนนลำดับที่ 2 จับมือกับพรรคคะแนนลำดับที่เหลือ จัดตั้งรัฐบาลผสม โดยพรรคคะแนนลำดับ 1 ก็เป็นพรรคฝ่ายค้าน โดยพฤติกรรมการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของ ส.ว.นั้น คาดว่าคงโหวตไปในทิศทางเดียวกัน และคงไม่โหวตให้กับพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน จึงมีความไปได้ว่าพรรคเพื่อไทยคงจะพยายามไปล็อบบี้พรรคอื่นๆ เพื่อให้ได้เสียงข้างมาก เพื่อจะมาคานเสียงกับ ส.ว.ขึ้น ในอนาคตก็อาจจะมีสภาพการณ์ที่ ส.ส.พยายามรวมตัวเพื่อคานกับ ส.ว.ก็ได้

“หากเกิดกรณีที่พรรคอันดับ 1 มีคะแนนชนะพรรคอันดับ 2 แต่เสียงไม่ถึง 250 เสียง ต้องมาเป็นฝ่ายค้าน เพราะพรรคอื่นๆ นั้นรวมตัวกันจัดตั้งรัฐบาลผสมก็จะทำให้ได้รับการยอมรับน้อยลง และถ้ามีเสียงของ 250 ส.ว.มาช่วยสนับสนุนรัฐบาลผสมอีกก็จะทำให้สังคมและประชาคมโลกยิ่งยอมรับในตัวรัฐบาลนั้นน้อยลงเข้าไปอีก และอาจจะมองว่าเป็นรัฐบาลกึ่งทหารได้ ดังนั้นถ้าพรรคที่ 1 ชนะพรรคที่ 2 เยอะ สักประมาณ 60 เสียง แต่พรรคนั้นก็ไม่มีความชอบธรรม เพราะเจตนาของประชาชนต้องการให้พรรคที่ 1 ได้เป็นรัฐบาล ดังนั้นอย่าไปบิดเบี้ยวเจตนาของประชาชน ตามสปิริตแล้วควรจะให้พรรคที่ 1 ได้มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลก่อน ถ้าทำไม่ได้แล้วจึงค่อยมาที่พรรคการเมืองอันดับถัดไป” นายนิพิฏฐ์กล่าว

ส่วนโอกาสการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายนิพิฏฐ์เชื่อว่า ต้องดูเจตนาของทุกฝ่ายประกอบกัน รวมถึงเจตนาของ ส.ว.ที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมา แต่เมื่อถึงเวลาที่เกิดปัญหาจริงๆ บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญไม่สามารถนำไปใช้ต่อได้แล้ว ก็คงจะเห็นด้วยที่จะให้แก้รัฐธรรมนูญ แต่หากเป็นภาวะปกติคงจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ยากมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น