“ศรีวราห์” รอง ผบ.ตร.ทำป่วน ให้ ผบช.ภูธร 9 ภาคเร่งประสาน ผอ.กกต.จว.ให้อนุกรรมการประจำเขตออกเสียงตั้ง ตร.ชุดเคลื่อนที่เร็ว ตร.ที่ภูมิลำเนาอยู่นอกเขตออกเสียง ขอใช้สิทธิออกเสียงในหน่วยที่ใกล้สถานที่ปฏิบัติงานได้ ด้าน กกต.แจงทำไม่ได้ ระบุ จนท.ที่จะใช้สิทธิในหน่วยออกเสียงได้ต้องได้รับแต่งตั้งเป็น กปน. และ จนท.รักษาความปลอดภัยที่ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยออกเสียงนั้นเท่านั้น
วันนี้ (6 ก.ค.) นายบุญเกียรติ รักชาติเจริญ รักษาการเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าว กกต.ให้นโยบายกับคณะอนุกรรมการประจำเขตออกเสียงในแต่ละพื้นที่ว่าให้อนุญาตให้ตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็วในพื้นที่ซึ่งไม่มีมีชื่อเป็นผู้มีสิทธิออกเสียงในหน่วยออกเสียงดังกล่าว และไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยออกเสียงนั้นสามารถใช้สิทธิออกเสียงในหน่วยออกเสียงที่อยู่ใกล้สถานที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ว่า ตามกฎหมายแล้วเจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการประจำเขตออกเสียงให้เป็นกรรมการประจำหน่วยออกเสียงจะสามารถใช้สิทธิออกเสียงในหน่วยออกเสียงที่ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้เลย ซึ่งในกรณีของตำรวจที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน่วยละ 2 คนก็สามารถใช้สิทธิในหน่วยออกเสียงนั้นๆ ได้เช่นเดียวกัน
แต่สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตออกเสียงที่ได้รับการแต่งตั้งจากต้นสังกัดให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นชุดเคลื่อนที่เร็วในวันออกเสียงประชามตินั้นจะไม่สามารถลงคะแนนในหน่วยออกเสียงซึ่งอยู่ใกล้สถานที่ปฏิบัติหน้าที่ได้
“แม้ตามระเบียบการแต่งตั้งกรรมการประจำหน่วยออกเสียงจะเขียนเปิดช่องให้กรรมการประจำเขตสามารถแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้อย่างน้อยหน่วยออกเสียงละ 1 คนก็ตาม คือหมายความว่าจะตั้งสองคนสามคนก็ได้ แต่ต้องหมายความว่า บุคคลเหล่านั้นจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยออกเสียงนั้นๆ เท่านั้น จึงจะใช้สิทธิออกเสียงยังหน่วยออกเสียงที่ตนเองปฏิบัติหน้าที่ได้”
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้ทำหนังสือหารือกรณีดังกล่าวมายังสำนักงาน กกต.โดยต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นชุดเคลื่อนที่เร็วในพื้นที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 27 นาย และตำรวจที่มีภูมิลำเนานอกเขตออกเสียง จ.สุราษฎร์ธานี ได้ใช้สิทธิออกเสียงยังหน่วยออกเสียงที่อยู่ใกล้สถานที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่ง กกต.ได้แจ้งกลับไปว่าไม่สามารถใช้สิทธิออกเสียงในหน่วยออกเสียงที่อยู่ใกล้สถานที่ปฏิบัติงานได้ แต่ต่อมาพบว่าคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี กลับมีคำสั่งแต่งตั้งนายตำรวจจำนวนดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ส่งผลให้ในวันนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งข้อความด่วนที่สุดผ่านวิทยุในราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งไปยังผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรทั้ง 9 ภาค ใช้กรณีของ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นตัวอย่าง โดยระบุว่า “เพื่อให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดที่ไม่มีสิทธิในการออกเสียงประชามติได้มีสิทธิการไปออกเสียงในครั้งนี้ให้เป็นไปตามนโยบายตำรวจ ขอให้หัวหน้าสถานีตำรวจประสานกับคณะอนุกรรมการออกเสียงประจำเขตพื้นที่นั้นๆ โดยด่วน เพื่อขอให้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดดังกล่าว เป็นเจ้าพนักงานดำเนินการออกเสียง ประจำหน่วยออกเสียงเพิ่มเติม ทำให้ในช่วงสายวันนี้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดที่ได้รับการประสานจากหัวหน้าสถานีตำรวจในพื้นที่ต่างขอความชัดเจนเข้ามายังว่าจะให้คณะอนุกรรมการออกเสียงประจำเขตดำเนินการอย่างไร ซึ่งทางสำนักงานก็ได้มีการส่งหนังสือของสำนักงานที่ตอบกลับไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ไปให้เป็นแนวปฏิบัติว่าไม่สามารถทำได้”