แกนนำประชาธิปัตย์ แจงลงชื่อเครือข่ายฯ เพราะข้อเรียกร้องมีเหตุผล ควรรับฟัง ไม่เกี่ยวรับไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ย้ำประชามติต้องเสรี แนะลองคิดดูเห็นพ้องกับเพื่อไทย ทั้งที่เห็นต่างกันมาตลอด
วันนี้ (21 ก.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมีเสียงวิจารณ์ว่าพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมกับกลุ่มต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญเนื่องจากมีแกนนำพรรคบางคนลงชื่อหนุนคำแถลงการณ์ของเครือข่ายกลุ่มพลเมืองผู้ห่วงใยว่า ตอนที่ตนได้ลงนามนั้นก็ดูในเนื้อหาสาระของแถลงการณ์ เพราะเห็นว่าข้อเรียกร้องของเครือข่ายฯ นั้นเป็นเหตุเป็นผลที่ทางผู้มีอำนาจในบ้านเมืองควรจะรับฟัง ส่วนคนที่ลงนามด้วยจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ตนไม่ได้มองประเด็นนั้น เชื่อว่าคนที่ลงนามร่วมกันก็คงคิดคล้ายๆ กับตน การจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้นก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลไป ส่วนจะเกิดความเสียหายต่อพรรคเนื่องจากหลายคนจะคิดว่าเราเป็นพวกเดียวกับคนที่ต่อต้านรัฐธรรมนูญนี้หรือไม่นั้น เราคงไปห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้ และเรามีหน้าที่แค่บอกความคิดของตนเอง โดยได้บอกชัดเจนแล้วว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอเรียกร้องให้บรรยากาศการทำประชามติที่สามารถแสดงความเห็นได้อย่างเสรี ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับความเห็นต่อเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด โดยทุกคนก็มีสิทธิ์จะคิดอะไรก็ได้ทั้งนั้น
ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีนี้ต้องไปดูว่าคำแถลงของเขาเกี่ยวกับเรื่องอะไร ซึ่งเท่าที่ตนดูข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อนั้นมีความเป็นกลางทางการเมือง เช่น ให้มีการแสดงความเห็นอย่างเสรี ไม่มีการปิดกั้นในช่วงทำประชามติ เป็นต้น ซึ่งแนวคิดนี้ใครๆ ก็หนุนทั้งนั้น หากบังเอิญว่าเรามีความเห็นเรื่องนี้ตรงกับฝ่ายที่ไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่แปลก และไม่ได้มีความเสียหายอะไร อีกทั้งในคำแถลงการณ์ก็ไม่ได้ระบุว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้แต่อย่างใด
“คนในพรรคไม่ได้ติดใจที่มีแกนนำพรรคบางคนร่วมลงนามหนุนคำแถลงนี้ ผมมองว่าข้อเสนอนี้ดีกับทุกฝ่าย อีกทั้งอย่าไปคิดว่าความเห็นที่ขอให้เปิดเสรีในการแสดงความเห็นนั้นเป็นมาจากกลุ่มไหน หรือพรรคไหนเลย แต่ให้มองว่าแนวคิดดีไหม แล้วทำไมทางพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์จะบังเอิญเห็นตรงกันไม่ได้ ถ้าทั้งสองพรรคเห็นไม่ตรงกันเลยตลอด 9-10 ปี อย่างนี้น่าจะถือว่าแปลกประหลาดมาก” นายนิพิฏฐ์กล่าว