“วิษณุ” โอ่เวทีร่างรัฐธรรมนูญเชียงใหม่ราบรื่น - GT200 รอ ป.ป.ช. ค่อยเรียกค่าเสียหาย

รองนายกรัฐมนตรีชี้แจงการจัดเวทีร่างรัฐธรรมนูญที่เชียงใหม่ประสบความสำเร็จ ผ่านไปด้วยดี เชื่อถ้ารณรงค์ไม่รับร่างฯ ไม่เข้าข่ายไม่ถือว่าเป็นปัญหา บอกไม่ชอบถือว่าไม่ผิด แต่ถ้าชักชวนด้วยถือว่าผิด ขึ้นอยู่กับศาลจะดูเจตนา วอนพรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวเห็นแก่ความสงบเรียบร้อย กรณีเครื่องตรวจระเบิด GT200 ให้รอ ป.ป.ช.ค่อยเรียกค่าเสียหายจะได้ไม่เสียเชิง ไม่ตอบประเด็น “เจ้าสัวบุญชัย” เข้าข่ายปลุกระดมหรือไม่ บอกให้ดีเอสไอดูข้อเท็จจริง

วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.30 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดเวที “ร่างรัฐธรรมนูญ ประชามติ และประชาชน” โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ จ.เชียงใหม่ ที่ผ่านมาว่า ไม่มีความแตกต่างกับเวทีก่อนหน้านี้ที่จัดขึ้นในค่ายทหาร เวทีนี้ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แม้มีบางประเด็นที่ดูเหมือนจะเกิดเรื่องรุนแรง แต่ผ่านไปด้วยดี เพราะผู้ชี้แจงสามารถตอบคำถามได้ ไม่มีใครรู้สึกว่าบรรยากาศแตกต่างไปจากเดิมเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้หลายฝ่ายออกมารณรงค์ไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นปัญหาหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ถ้ารณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญแล้วเข้าข่ายมาตรา 61 ของ พ.ร.บ.ประชามติ ไม่ว่าจะวรรคใดก็ตามจะมีปัญหา แต่ถ้ารณรงค์แล้วไม่เข้าข่ายไม่ถือว่าเป็นปัญหา การรณรงค์แล้วเข้าข่ายนั้นไม่ใช่เพียงคำพูดที่ก้าวร้าว หยาบคาย แต่จะต้องก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม ข่มขู่ โดยมีเจตนาเพื่อนำไปสู่อะไรบางอย่าง ถ้าเจตนาคือไม่ชอบร่างรัฐธรรมนูญไม่ถือว่าผิด แต่ถ้าเจตนาเพื่อให้คนไม่ไปใช้สิทธิ หรือไปใช้สิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นคือความผิด เวลาขึ้นศาลจะต้องมีการพิสูจน์ในเจตนาเหล่านี้ด้วย เช่น การใส่เสื้อรับหรือไม่รับ ศาลจะต้องวินิจฉัยเจตนาที่แท้จริงออกมาให้ได้ แล้วดูว่าผิดตามข้อกฎหมายที่มีอยู่หรือไม่

เมื่อถามว่า หากดูประชามติครั้งที่ผ่านๆ มา ในช่วงสุดท้ายสถานการณ์จะเข้มข้นขึ้นหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ครั้งแรกที่ทำนั้น ใช้เวลาตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นจนถึงวันออกเสียงประชามติเพียง 20 วัน แต่ครั้งนี้ใช้เวลาถึง 120 วัน เมื่อปี 2550 ความขัดแย้งยังไม่มากเหมือนทุกวันนี้ แต่วันนี้ประเทศเรามีความขัดแย้งสูงทำให้ทุกอย่างดูไม่ค่อยเรียบร้อย และหลังจากนี้เหลือเวลาอีก 50 กว่าวันจะถึงวันออกเสียงประชามติ ยังไม่ทราบว่า กกต.จะมีรูปแบบการรณรงค์ใหม่ๆอย่างไรบ้าง และตอบไม่ถูกว่าการออกมารณรงค์ของหลายฝ่ายจะมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนหรือไม่

เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยรณรงค์ให้ประชาชนไปลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิออกเสียงประชามติล่วงหน้า แต่ถูกขอความร่วมมือจากฝ่ายความมั่นคงให้ยกเลิก นายวิษณุกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยสามารถทำได้ แต่อะไรหลายอย่างที่ทำได้ แต่ฝ่ายความมั่นคงไม่อยากให้ทำก็ขอให้อย่าทำ เพราะมีผลต่อความสงบเรียบร้อย ทำให้มีปัญหาเกิดขึ้น

เมื่อถามว่า กรณีเจ้าหน้าที่ไม่ให้มีการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติของ นปช.จะส่งผลกระทบใดๆ ในมุมกลับหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “อย่าไปประมาทคนไทย”

นายวิษณุกล่าวถึงกรณีศาลอังกฤษตัดสินยึดทรัพย์จากนายเจมส์ แม็กคอร์มิก อดีตนักธุรกิจชาวอังกฤษ ผู้ต้องหาในคดีจำหน่ายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดปลอม (จีที 200) เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อประเทศไทยซึ่งซื้อเครื่องดังกล่าวมาด้วยว่า ทราบว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อาจจะช้าหน่อยไม่ถูกใจ แต่กระบวนการยังมีอยู่

ส่วนที่ศาลตัดสินยึดทรัพย์เพื่อเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายนั้น นายวิษณุกล่าวว่า เป็นการยึดทรัพย์ตามคำสั่งของศาลอังกฤษ ในส่วนของไทยยังไม่มีการดำเนินการในส่วนนี้ ยังอยู่ในชั้น ป.ป.ช. เราจะเอาคำพิพากษาของเขาแล้วมาตามยึดทรัพย์ไม่ได้ เว้นแต่อังกฤษเขาจะขอมาซึ่งมีช่องทางอยู่

ต่อข้อถามว่า เขายึดทรัพย์เพื่อเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย ไทยซึ่งเป็นผู้เสียหายจะเรียกร้องการเยียวยานด้วยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตนตอบไม่ถูก ไม่แน่ใจ ยังนึกไม่ออก ไม่ใช่บอกปัดเพื่อไม่ตอบ แต่ยังนึกไม่ออกจริงๆ

เมื่อถามย้ำ ประเทศอื่นที่ซื้อเครื่อง จีที 200 ได้รับการชดเชยแล้ว เหตุใดเราต้องรอ ป.ป.ช. นายวิษณุกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องรอ แต่เมื่อขณะนี้ของเราเรื่องอยู่ที่ ป.ป.ช.ต้องคอยดูว่าสุดท้ายแล้วผิดหรือไม่ผิด หรือใครผิด ถ้าเรียกชดเชยเราจะเรียกใคร ข้อหาอะไรอย่างไร เพราะเขาจะมีข้อแก้ตัวกลับมา ซึ่งการจะเรียกไปก่อนแล้วให้เขาแก้ตัวมาอย่างนั้นก็ได้ แต่จะเสียเชิงเหมือนกัน เพราะจะทำทั้งทีต้องให้ได้ เดี๋ยว ป.ป.ช.คงบอกมาเองว่าจะต้องทำอย่างไร เพราะรัฐเป็นผู้เสียหาย

นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีนายบุญชัย เบญจรงคกุล เจ้าสัวหมื่นล้าน ให้สัมภาษณ์เชิญชวนศิษย์วัดธรรมกายมาร่วมปฏิบัติธรรมครั้งยิ่งใหญ่ ถือว่าปลุกระดมหรือไม่ว่า ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตนคิดว่า ปล่อยให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พูดหน่วยเดียวดีกว่า คนอื่นพูดไปโดยไม่รู้ว่าเข้าข้างหรือไม่เข้าข้าง ยุยงส่งเสริม หรือสนับสนุน หรือสะใจ หรือไม่สะใจ ถ้าจะผิดขอให้ดีเอสไอเป็นฝ่ายดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายว่าใครทำอะไรที่ผิดหรือไม่ คนอื่นอย่าพูดอะไร