โฆษกรัฐบาล เผย เกินความคาดหมายลูกศิษย์วัดritธรรมกายไม่ยอมรับอำนาจรัฐ เกรงคนมองวัดเสียหายยิ่งขึ้น ยันประเทศเป็นประชาธิปไตยทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ลั่นคนพยายามใช้อภิสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมายต่างหากที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
วันนี้ (16 มิ.ย.) พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศิษย์วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า หลวงพ่อธัมมชโย จะไม่มอบตัว โดยอ้างว่า บ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตย ว่า รู้สึกเหนือความคาดหมาย ว่า ทางศิษย์วัดพระธรรมกายใช้เหตุผลเช่นนี้ในการปฏิเสธที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้ให้เกียรติและปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่เคยใช้อำนาจพิเศษใด ๆ
แม้ว่าบ้านเมืองขณะนี้อาจไม่ใช่ประชาธิปไตยในรูปแบบที่คุ้นเคย แต่ในทางปฏิบัติถือว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยไม่แพ้ประเทศเสรีนิยมใด ๆ ด้วยการทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ และบังคับใช้อย่างเท่าเทียม
“ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน คนทำผิดต้องได้รับโทษโดยเท่าเทียม ไม่มีละเว้น นักการเมืองโกงกิน ซึ่งแทบจะไม่เคยถูกจับมาก่อน ก็ถูกลงโทษทั้งจำทั้งปรับในยุคนี้ การที่จะมีใครพยายามทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย หรือใช้อภิสิทธิ์เครือข่ายพวกพ้องปกปิดความผิดตนเองต่างหาก ถึงจะเรียกว่าไม่เป็นประชาธิปไตย”
พลตรี สรรเสริญ แสดงความเป็นห่วงว่า ที่ผ่านมา วัดพระธรรมกายก็มักจะถูกสังคมตั้งข้อสงสัยว่า อิงการเมือง หรือฝักใฝ่การเมืองขั้วใดหรือไม่ ซึ่งทางวัดก็ปฏิเสธมาโดยตลอด ว่า วัดไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่การออกมาอ้างเหตุผลของศิษยานุศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงพ่อธัมมชโย ว่า หลวงพ่อจะไม่มอบตัวในครั้งนี้ น่าเป็นกังวลว่าจะยิ่งทำให้ประชาชนคิดไปได้ว่า วัดพระธรรมกายมิได้เป็นอย่างเช่นที่พยายามบอกสังคมมาโดยตลอด
“ตามสามัญสำนึก และหลักเหตุผลพื้น ๆ แล้ว หากศิษยานุศิษย์กลุ่มนี้มั่นใจในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อ ก็มิควรขัดขวางการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของหลวงพ่อ รวมทั้งควรเห็นแก่วัดพระธรรมกาย และศิษย์วัดคนอื่น ๆ ที่อาจจะต้องพลอยมัวหมองไปด้วยกับเรื่องอื้อฉาวในครั้งนี้ และไม่ควรทำให้ศิษย์วัดคนอื่น ๆ ต้องมาเดือดร้อน มานั่ง มานอน มาขวางทาง เจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่พยายามทำหน้าที่รักษากฎหมายตามกระบวนการยุติธรรมโดยชอบธรรม”
พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า โดยส่วนตัวมองไม่เห็นเหตุผลว่าจะรั้งรออะไรให้ชื่อเสียงวัด และตัวหลวงพ่อต้องมัวหมอง เพราะยิ่งปล่อยไว้ให้เรื้อรัง ก็อาจยิ่งทำให้ประชาชน หรือแม้แต่ผู้ที่ศรัทธาวัดพระธรรมกายเอง ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมจึงมีความพยายามยืดเยื้อเพื่อซื้อเวลาถึงเพียงนี้
จึงอยากขอความร่วมมือศิษยานุศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงพ่อธัมมชโย อย่าได้ขัดขวางการมอบตัว เพื่อให้หลวงพ่อได้ชี้แจงความบริสุทธิ์ของท่าน ซึ่งถือเป็นการรักษาความถูกต้อง และรักษาความสงบของบ้านเมือง เชื่อว่า จะเป็นกุศลแรงยิ่งกว่าสร้างวัดสร้างเจดีย์มากนัก