กกต. “สมชัย” สุดฉุน ถูกเด็กธรรมศาสตร์ก๊วนประชาธิปไตยใหม่ หยันไม่เคยเป็นอาจารย์ มธ. แถมด่าพยายามเลียตีนทหาร ลั่นฟ้องหมิ่นประมาทแน่พรุ่งนี้ ด้าน เลขาฯ คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย เตือน เป็นผู้มีอำนาจรัฐต้องมั่นคง นี้เป็นราคาของผู้สวมหัวโขน
วันนี้ (15 มิ.ย.) เว็บไซต์เฟซบุ๊ก Srisutthiyakorn Somchai ของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ได้โพสต์ภาพผู้ชุมนุมหน้าศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ พร้อมข้อความระบุว่า “บุคคลในภาพเสื้อสีเทานี่ชื่ออะไร พรุ่งนี้ (16 มิ.ย.) ตนจะไปใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชน ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท” ต่อมานายสมชัย ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า “ทราบชื่อแล้ว ชื่อ นายวรวุฒิ บุตรมาตร” ก่อนที่ นายสมชัย จะโพสต์คลิปบุคคลดังกล่าวปราศรัย พร้อมระบุว่า “มีบันทึกเทปแล้ว ถึงช่อง ทีวี ที่เผยแพร่คลิป จะไวทายาด รีบลบคลิปดังกล่าวทิ้ง หลังจากตนบอกจะฟ้อง แต่มีหลักฐานแล้วครับ”
ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวได้ปราศรัยระบุว่า “นายสมชัย ไม่เคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาก่อน แต่ตนไม่เข้าใจว่านายสมชัย ไปกินอะไรมา มีอำนาจเป็น กกต. พยายามเลีย xx ทหารขนาดนี้”
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายวรวุฒิ เป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นสมาชิกของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ที่ต่อต้านรัฐบาลทหารด้วย
ขณะที่เว็บไซต์เฟซบุ๊ก Laddawan Tantivitayapitak ของ นางลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ได้เข้ามาแสดงความเห็น โดยระบุว่า เป็นผู้มีอำนาจรัฐต้องมั่นคง พร้อมถูกตรวจสอบ เพราะเรายึดหลักธรรมาภิบาล และการส่งเสริมให้มีพลเมืองร่วมรับผิดชอบต่อสังคม นี้เป็นราคาที่ผู้สวมหัวโขนทั้งหลายต้องจ่ายเพื่อแลกกับอำนาจรัฐที่ได้มา
ต่อมา นายสมชัย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 16 มิ.ย. ตนจะเดินทางแจ้งความหมิ่นประมาทที่สน.ทุ่งสองห้อง สืบเนื่องจากกรณีที่มีการชุมนุมหน้าศูนย์ราชการของกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ซึ่งมีคลิปวิดีโอของช่อง TV24 โดย นายวรวุฒิ ที่มาร่วมชุมนุมได้กล่าวพาดพิง และหมิ่นประมาทตน ดังนั้น จะใช้สิทธิในฐานะประชาชนเพื่อฟ้องหมิ่นประมาท อย่าหาว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก ซึ่งทราบว่าบุคคลดังกล่าวเรียนด้านกฎหมายมา ควรจะรู้ด้วยว่าสิทธิเสรีที่แสดงออกมาต้องมีขอบเขต ตนพูดเสมอว่าจะพูดว่าจะรับหรือไม่รับสามารถทำได้ แต่ไม่ควรละเมิดสิทธิคนอื่น กรณีนี้เป็นการใช้คำพูดหยาบคาย พาดพิงบุคคลอื่นถือเป็นคดีหมิ่นประมาทที่ต้องฟ้องร้อง เพื่อให้เป็นตัวอย่างเพื่อให้ไม่เกิดการกระทำในลักษณะนี้อีก ยืนยันว่า การใช้เสรีภาพในการแสดงความเห็นทุกคนสามารถทำได้ แต่ต้องมีเหตุผลและเป็นสุภาพชน