ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตั้งเป้ากำจัดขยะทั่วประเทศให้หมดในปี 2562 เน้นลดขยะตั้งแต่ต้นทาง พร้อมขยะเกิดขึ้นใหม่ และตั้งศูนย์กำจัดขยะตามกลุ่มจังหวัดต่างๆ พร้อมเตรียมกำจัดขยะอุตสาหกรรม และขยะอันตราย
วันนี้ (3 พ.ค.) ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ชี้แจงแผนกำจัดขยะทั่วประเทศว่าปัจจุบันในบ้านเรามีขยะรวมทุกประเภทค้างสะสมมาจากรัฐบาลเก่าที่ผ่านมาประมาณ 30 ล้านตันเศษ และขณะนี้กำจัดไปได้แล้วประมาณ 20 ล้านตันเศษ หรือประมาณ 66% โดยตั้งเป้าไปจากวันนี้จนถึงปี 2562 จะต้องกำจัดขยะให้หมด ซึ่งจะดำเนินการควบคู่กันไปกับขยะที่เกิดขึ้นใหม่ด้วย เช่น จะพยายามลดขยะตั้งแต่ต้นทางโดยการจัดหา หรือผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ให้สามารถใช้งานได้นานๆ ไม่ใช่ใช้เพียงไม่นานแล้วต้องทิ้งให้กลายเป็นขยะ หรือของบางอย่างเมื่อผลิตขึ้นมาแล้วต้องสามารถรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ได้ ส่วนนี้คือมาตราการลดขยะตั้งแต่ต้นทาง
นอกจากนี้จะมีการตั้งศูนย์กำจัดขยะตามกลุ่มจังหวัดต่างๆ โดยจะมีปัจจัยกำหนดตัวเลือกพื้นที่โดยการดูตามปริมาณขยะในแต่ละพื้นที่ การขนส่งในแต่ละจุดที่รวบรวมจากจุดย่อยไปจุดใหญ่ รวมถึงการยอมรับของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเมื่อกำหนดพื้นที่ศูนย์กำจัดขยะได้ ก็จะนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาดำเนินการ เช่น การกำจัดในเตาเผา การอัดเป็นเชื้อเพลิงขยะ (RDF) การฝังกลบ นำไปใส่โรงเผาของโรงงานปูนซีเมนต์ เป็นต้น ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าในส่วนของขยะติดเชื้อ ขยะที่เป็นกากอุตสาหกรรม ขยะที่เป็นของเสียอันตรายจะต้องกำจัดให้ได้ภายในปี 2563-2564 โดยจะมีกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ