“ประยุทธ์” ขู่ลงโทษปล่อยข่าวหยุดเพิ่มสงกรานต์ ย้ำลงโทษเหตุซ้อมพลทหารดับ

“บิ๊กตู่” พร้อมลงโทษคนปล่อยข่าวหยุดเพิ่มสงกรานต์ ยันไม่มี ขอให้ระวังอุบัติเหตุ ย้ำมีมาตรการยึดรถ จี้มีจิตสำนึกดื่ม ขอให้ยึดประวัติศาสตร์อย่าเอาตามสากลเกินไป เข้มแต่งกายไม่เรียบร้อยเจอจับ เผย ลงโทษตามกระบวนการเหตุซ้อมทหารเกณฑ์ดับ รับไม่ชอบอยู่แล้ว แนะพ้นเกณฑ์ถึงมีครอบครัวจะได้ไม่มีปัญหา ควรรับใช้ชาติอย่างน้อยมีวินัย รับพลทหาร-ครูฝึกก็เครียด ขอให้เห็นใจบ้าง

วันนี้ (5 เม.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถึงการเผยแพร่ประกาศวันหยุดราชการในช่วงวันหยุดสงกรานต์เพิ่มในวันที่ 12 เม.ย.ว่า ต้องตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ปล่อยข่าวลือผ่านทางโซเชียลมีเดียจะต้องนำตัวมาลงโทษ วันหยุดราชการนั้นก็หยุดตามที่ได้มีประกาศไว้ตามประเพณี ไม่มีวันหยุดเพิ่มเติม ปีนี้หยุดตั้งแต่วันที่ 13-17 เม.ย. รวมเป็น 5 วันก็เพียงพอแล้ว งานการต้องทำกันบ้าง ประเทศชาติหยุดได้ที่ไหน ขนาดทำงานกันอย่างนี้ยังไม่เรียบร้อยเลย เพราะว่าพื้นฐานไม่เรียบร้อยก็ต้องแก้ไข ปัญหามีไว้เผชิญหน้าและแก้ให้ไปได้ ตนเองไม่ได้มองเป็นปัญหาที่ทำให้ท้อแท้หรือเป็นอุปสรรค แต่ถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายที่ตนเองต้องทำให้สำเร็จ และท้าทาย สำหรับประชาชนคนดีจะต้องร่วมมือกับตนเองทำให้ประเทศชาติไปให้ได้สำเร็จ อย่าไปเชื่อถือคำพูดที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง

นายกฯ กล่าวอีกว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้นตนไม่สามารถใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ได้ เพราะไม่มีกฎหมายไหนที่จะห้ามคนเสียชีวิต หรือเจ็บได้ วันนี้ทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อไม่ให้มีการบาดเจ็บล้มตายช่วงเทศกาลสงกรานต์ คือ 1. ความปลอดภัย ซึ่ง คสช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะตั้งด่านตรวจมากขึ้น ตั้งจุดแจ้งเตือนก่อนที่จะถึงทางโค้ง ทางเบี่ยง จัดคนตรวจสอบแอลกอฮอล์ ตรวจคนขับรถตามท่ารถ ขณะเดียวกัน สังคมต้องปฏิเสธคนขับรถที่ดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 2. เมื่อคนขับรถมีอาการขับรถด้วยอาการหวาดเสียว ง่วงนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ ให้จอดรถแล้วให้นำรถมาเปลี่ยน

“ทุกคนชีวิตฝากไว้กับเขา เหมือนผมที่ต้องไว้ใจพลขับผม เพราะชีวิตผมฝากอยู่กับเขา เพราะฉะนั้นพลขับต้องไม่กินเหล้า แล้วขับรถต้องสุภาพ ไม่ใช่อะไรก็ได้ หรือขับรถเร็ว ทั้งนี้ยืนยันว่าจะใช้มาตรการยึดรถเหมือนช่วงเทศกาลปีใหม่ เจอใครเมาให็ยึดรถเพื่อให้สงบสติอารมณ์ ถ้าเมามากก็ยึดให้นานหน่อย ลูกเมียที่อยู่ในรถก็ต้องรอ รอจนกว่าจะหายเมา ก็คิดแล้วกันว่าจะเที่ยวสนุกหรือไม่ เลือกสักอย่างถ้าจะกินเหล้าก็ควรอยู่ที่บ้าน สมอง และสติปัญญาก็มีใคร่ครวญบ้าง ทำไมไม่สร้างจิตสำนึกจะทำอย่างไรคนขับจะต้องไม่เมา วันนี้ภาระตกอยู่ที่เจ้าหน้าที่ทุกเรื่อง ไม่นึกถึงเขาหรือ ปีใหม่เขาก็อยากกลับบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ต้องทำงาน 24 ชั่วโมง ต้องเสียสละ แล้วก็ทำมาตลอดจนเลิกไม่ได้ ต้องไปกางเต็นท์นวดให้คนขับ อีกหน่อยจะต้องล้างปากแปรงฟันให้ด้วยหรือไม่ ขอให้ช่วยเหลือตัวเองไว้ก่อนได้หรือไม่ และขอให้ระมัดระวังการขับรถ และอย่าไปนั่งรถที่คนขับดื่มแอลกอฮอล์” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า สำหรับความสนุกในช่วงวันสงกรานต์ อยากให้เป็นประวัติศาสตร์ เพราะวันนี้เป็นปีสงกรานต์สากลที่จัดร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว พม่า กัมพูชา เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน ส่วนในประเทศก็อย่าเอาตามสากลหรือวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามามากเกินไป และเบื้องต้นได้สั่งการไปแล้วว่า จะต้องไม่มีผู้หญิง หรือสาวประเภทสองที่แต่งกายไม่เรียบร้อยไปเต้นเปิ๊ดสะก๊าดอยู่บนรถ จะต้องจับทันทีรวมถึงเจ้าของรถด้วย

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้หยอกล้อสื่อมวลชนว่า “พวกเธอต้องระวังอย่าไปเดินแถวนั้น แต่ดูแล้วรอดทุกคน เพราะดูดีเกินไป สวยเกินไป”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีพลทหาร ทรงธรรม หมุดหมัด สังกัด ร.152 พัน.1 ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ถูกครูฝึกลงโทษจนเสียชีวิตว่า สอบสวนแล้วลงโทษเบื้องต้นต้องติดคุกกันก่อน จากนั้นสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วมีทั้งปลดออก งดบำเหน็จบำนาญ และคดีอาญามีหรือไม่ก็ว่ากันไป เป็นไปตามกฎหมายซึ่งทหารมี 2 อย่างพอโดนวินัยทหารแล้วจะโดนคดีอาญาหรือเปล่าก็ต้องฟ้องร้องกันไป กรณีนี้มันไม่ควรเกิดอยู่แล้ว ตนห้ามมานาน ก่อนหน้าสมัยตนเป็น ผบ.ทบ.ห้ามก็ยังเกิดขึ้นต้องไปดูสาเหตุว่าเกิดขึ้นจากอะไร ทำไมถึงทำแบบนั้น อย่างไรคนก็มนุษย์มันต้องเมตตาคน จะผิดจะถูกอย่างไรกระบวนการต้องสอบสวนกันมา ทำไมต้องไปทำแบบนั้นตนก็ไม่เห็นด้วย ไม่ชอบอยู่แล้ว กระทรวงกลาโหมและกองทัพบกต้องดำเนินการอยู่

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ดารานักร้องไม่อยากจับใบแดงใบดำรับเข้าการเกณฑ์ทหารและมักจะอ้างเป็นโรคหอบหืดว่า ไม่ใช่ ต้องดูอย่างนี้มันมีหมออยู่ในคณะตรวจเลือกทหารด้วย ตนก็เคยเป็นประธานกรรมการตรวจเลือกทหาร แล้วเวลาเราไปก็เสียใจเหมือนกันบางทีครอบครัวลูกเมียมาเป็นกำลังใจกันเต็มเลยให้ไม่ถูกเกณฑ์ทหาร แต่มันดันถูกเลือกต้องเป็นทหาร ปล่อยไม่ได้ มันเป็นหน้าที่ไทยทุกคน เพราะฉะนั้นการมีครอบครัวสิ่งแรกคือต้องให้พ้นการเกณฑ์ทหารเสียก่อน แล้วค่อยมีเมียใช่ไหมจะได้ไม่มีปัญหา ไม่เช่นนั้นมีเมียก่อนวัยอันควรกันหมด เวลานี้ควรจะรับใช้ชาติสักหน่อย ถ้าเรียนหนังสือสูงหน่อยก็สมัครเป็นทหารแค่ปีเดียว หรือ 6 เดือน ได้รู้รสชีวิตเสียหน่อย อย่างน้อยก็มีวินัย ก็มีส่วนดี ไอ้คนเลวมันก็มี หน่วยฝึกทหารก็มีปัญหาตลอดเพราะบางทีความเครียดมันสูง พลทหารก็เครียด ครูฝึกก็เครียด พลทหารเลยจ้องจะหนีอย่างเดียว บางทีต้องนอนหัวกองร้อยท้ายกองร้อย เพราะพลทหารจะหนี ถ้าทหารหนีทั้งกองร้อยหนีมากไม่ได้มันมีโทษ ต้องไปแก้การอบรม การปกครอง การบังคับบัญชาให้ดี แต่ต้องยอมรับว่าครูฝึกอยู่ 24 ชั่วโมงอยู่กับทหารตลอดเวลาแล้วฝึกที 3 เดือนปีหนึ่งฝึก 2 ครั้ง และครูฝึกคนเดิมที่ฝึก พอเลิกฝึกทหารก็ไปทำหน้าที่เหมือนทหารอื่น ครูฝึกงานหนักตนไม่รู้จะดูแลเขาได้อย่างไร มันเหมือนเป็นหน้าที่เบิกโอทีก็ไม่ได้ เป็นข้าราชการพลเรือนเบิกได้หมด ทหารเบิกไม่ได้ เราก็ไม่ได้ไปเรียกร้องอะไร บางครั้งอยากให้เห็นใจทหารบ้างในฐานะที่ตนเป็นทหารเก่า