รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เลี่ยงตอบพระใต้ขู่ไล่ “ไพบูลย์” ยันยังเดินหน้าแต่งตั้งสังฆราช ตั้งเป้าให้คนไทยศรัทธามากขึ้น โยนข้อกฎหมายให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบทำไป แนะยึดพรหมวิหาร 4 บอกยังไม่เห็นม็อบ อ้างพระเถระกำลังปฏิรูปแก้กฎหมาย ส่วนกรณีทนายสมเด็จช่วงสังคมตัดสินได้ อะไรควรไม่ควร
วันนี้ (21 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.30 น. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มพระสงฆ์เพื่อสันติภาพชายแดนใต้ออกแถลงการณ์ให้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม แสดงความรับผิดชอบต่อการก้าวล่วงผู้ปฏิบัติหน้าที่สังฆราช หลังจะออกหมายเรียกคดีรถหรูว่า เรื่องการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชยังดำเนินการอยู่ โดยหารือร่วมกับคณะสงฆ์ที่ทางกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) มอบหมายให้ทำงานร่วมกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ความจริงสัปดาห์นี้มีกำหนดการที่จะหารือกับคณะสงฆ์ถึงความเป็นไปในขณะนี้ แต่บังเอิญทั้งสองฝ่ายต่างมีภารกิจจึงต้องขอดูเวลาอีกครั้ง โดยเป้าหมายหลักมุ่งเน้นให้พระพุทธศาสนาเป็นที่ศรัทธาของคนไทยมากขึ้น ส่วนปัญหาที่เป็นอยู่ทุกวันนี้อะไรที่เป็นประเด็นข้อกฎหมายให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบทำงานไป สุดท้ายเมื่อได้ข้อยุติแล้วจะนำไปสู่หนทางในเรื่องอื่นๆ ได้ ทางที่ดีที่สุดคือต้องช่วยกันทำความเข้าใจ เรื่องพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีหลายส่วนที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ ต้องแก้แต่ละส่วนไป ด้วยการยึดพรหมวิหาร 4 จึงจะทำให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนพระสงฆ์ที่จะออกมาเคลื่อนไหว ถือเป็นหน้าที่ของสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ไปพูดคุยทำความเข้าใจ ต้องให้เวลา พศ.ทำงาน คิดว่าไม่บานปลาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ มองว่าจะคุยกันรู้เรื่องได้หรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า คนไทยพูดภาษาเดียวกันคุยกันได้ เชื่อว่าไม่มีอะไร ขณะนี้ยังไม่เห็นมีการเคลื่อนไหวของมวลชน ทุกอย่างถ้ามีความตั้งใจดี คิดดี ทำดี ปัญหาก็แก้ได้ เวลานี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำงานกันหนัก อย่าง มส. พระชั้นผู้ใหญ่ก็เดินหน้าเรื่องการปฏิรูป มีการแก้ไขกฎหมาย เมื่อถามถึงกรณีทนายความวัดปากน้ำ จะให้ทางสภาทนายความเข้าไปดำเนินการหรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ตนตอบเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะไม่ทราบว่ากฎระเบียบเป็นอย่างไร แต่ถ้าติดตามข่าวและเรียนรู้ข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาจะมีความเข้าใจ และสังคมจะตัดสินได้เองว่าอะไรถูก อะไรควรอะไรไม่ควร ส่วนตนเดินหน้าทำงานร่วมกับคณะสงฆ์เพื่อให้พระพุทธศาสนาเดินหน้าไปอย่างมั่นคง ถือเป็นความตั้งใจของตน