โพลสวนดุสิต สำรวจเรื่องการปราบผู้มีอิทธิพล ส่วนใหญ่มองเป็นนโยบายที่ดี หนุนจริงจัง แนะปราบมาเฟียยาเสพติดมากสุด เชื่อมี จนท.รัฐเอี่ยว เหตุมีผลประโยชน์ร่วมกัน มองการถูกคุกคามไม่กล้าร้องเรียนเป็นอุปสรรคการปราบปราม แต่คาด คสช.น่าจะทำสำเร็จ แนะทุกฝ่ายร่วมมือ ปชช.เป็นหูเป็นตา
วันนี้ (13 มี.ค.) มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพล (มาเฟีย) ของ คสช. จากที่ คสช. มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปรามผู้มีอิทธิพลในทุกพื้นที่ โดยให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อขจัดปัญหา “มาเฟีย” เพื่อเป็นการจัดระเบียบสังคม และดูแลประชาชนให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างปกติ ไม่ถูกเอาเปรียบ หรือถูกบังคับจากผู้ที่กระทำตนเป็นผู้ที่มีอิทธิพล เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็น และเป็นแนวทางให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากผลสำรวจจำนวนทั้งสิ้น 1,249 คน สำรวจระหว่างวันที่ 7-12 มีนาคม 2559 สรุปผลได้ ดังนี้
เมื่อถามว่าความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อนโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพล (มาเฟีย) ของ คสช.
อันดับ 1 เป็นนโยบายที่ดี เห็นด้วยต่อนโยบายนี้ ขอให้เร่งดำเนินการอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง 74.62%
อันดับ 2 หากทำได้จริงบ้านเมืองคงสงบเรียบร้อย ประชาชนปลอดภัย ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม 73.90%
อันดับ 3 เป็นเรื่องยากที่จะปราบปรามได้ทั้งหมด อาจแก้ปัญหาได้เพียงบางส่วนเท่านั้น 71.74%
อันดับ 4 เจ้าหน้าที่ ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ยุติธรรม ตรงไปตรงมา 65.49%
อันดับ 5 ควรให้รางวัลสำหรับผู้ที่ให้เบาะแส หรือผู้ที่ทำผลงานได้ดีเยี่ยม56.35%
เมื่อถามว่า “ผู้มีอิทธิพล” ที่ประชาชนคิดว่าควรเร่งปราบปรามมากที่สุด คือ
อันดับ 1 ผู้ค้ายาเสพติด ของผิดกฎหมาย อาวุธเถื่อน 88.87%
อันดับ 2 นักการเมือง นักการเมืองท้องถิ่น 78.46%
อันดับ 3 เจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ กลุ่มคนมีสี ตำรวจ ทหาร 73.26%
อันดับ 4 นายทุน เงินกู้นอกระบบ เปิดบ่อน หวยใต้ดิน 67.41%
อันดับ 5 พวกค้าแรงงาน ค้ามนุษย์ 61.73%
เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่ากลุ่มผู้มีอิทธิพลต่างๆ มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่?
อันดับ 1 มี 85.43% เพราะเป็นเรื่องปกติที่มีมานาน รับรู้จากข่าวที่นำเสนอ เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจหน้าที่ในการช่วยเหลือ หรืออำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่ของรัฐเองก็ออกมายอมรับว่ามีจริง ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 13.29% เพราะอาจเป็นข่าวโคมลอย มีการแอบอ้าง หรือใส่ร้ายป้ายสีเพื่อให้บุคคลนั้นๆ เสื่อมเสียชื่อเสียง ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่มี 1.28% เพราะเชื่อมั่นในเกียรติ และศักดิ์ศรีของข้าราชการไทย ก่อนเข้ารับตำแหน่งทุกคนต้องถวายสัตย์ปฏิญาณ ฯลฯ
เมื่อถามว่าปัญหา/อุปสรรค ที่ขัดขวางการปราบปรามผู้มีอิทธิพล (มาเฟีย) คือ
อันดับ 1 ไม่กล้าร้องเรียน กลัวเดือดร้อน ถูกคุกคาม ถูกทำร้าย 81.59%
อันดับ 2 รับสินบน รับเงินใต้โต๊ะ เห็นแก่ผลประโยชน์ 76.22%
อันดับ 3 การใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่ที่สูงกว่า ใช้ระบบเส้นสาย ช่วยเหลือพวกพ้อง เครือญาติ 70.94%
อันดับ 4 มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง รู้เห็นเป็นใจ ไม่เอาจริงเอาจัง 68.45%
อันดับ 5 กฎหมายมีช่องโหว่ บทลงโทษไม่เหมาะสม 66.53%
เมื่อถามว่าจากนโยบายของ คสช.ที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อขจัดปัญหาผู้มีอิทธิพล (มาเฟีย) ประชาชนคิดว่าจะสำเร็จมากน้อยเพียงใด?
อันดับ 1 น่าจะสำเร็จได้42.43% เพราะ หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองและประชาชน คสช.น่าจะควบคุมและแก้ปัญหาได้ ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่น่าจะสำเร็จ 36.99% เพราะเมื่อคนเก่าไปก็มีคนใหม่มาแทน ผู้มีอิทธิพลมีอยู่มาก การปราบปรามอาจไม่ทั่วถึงทุกพื้นที่ ฯลฯ
อันดับ 3 สำเร็จได้แน่นอน 11.93% เพราะ คสช.มีอำนาจเด็ดขาด เอาจริงเอาจัง สามารถใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 ได้ทุกสถานการณ์ ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่สำเร็จ 8.65% เพราะเป็นปัญหาที่มีมานาน ยังไม่เคยมีใครแก้ปัญหาได้สำเร็จ หรือขุดรากถอนโคนให้หมดสิ้นไปได้ ฯลฯ
เมื่อถามว่าวิธีการใดที่จะสามารถปราบปรามผู้มีอิทธิพล (มาเฟีย) ได้ผลมากที่สุด
อันดับ 1 ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ช่วยกันสอดส่องดูแล ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา 87.35%
อันดับ 2 เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เอาจริงเอาจัง มีบทลงโทษรุนแรงเด็ดขาด 83.35%
อันดับ 3 สามารถจับกุมหรือดำเนินการต่อผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ หรือตัวจริงให้ได้ 79.66%
อันดับ 4 ปลูกฝังจิตสำนึก เสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม 72.78%
อันดับ 5 มีระบบการติดตาม การตรวจสอบที่ดี มีประสิทธิภาพ 58.21%