xs
xsm
sm
md
lg

“นิพิฏฐ์” ชี้ รบ.หนุน ส.ว.สรรหา มุ่งสืบทอดอำนาจก่อปัญหา ท้า “เสรี” ลงเลือกตั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
รองหัวหน้า ปชป.มอง รบ.กลับหลักการหลังนายกฯ หนุน ส.ว.สรรหา สื่อให้เห็น กรธ.ไม่มีอำนาจ ทำตามสั่งผู้มีอำนาจ ฉะเป็นการสืบทอดอำนาจ อ้างหวั่นสภาผัวเมียแค่แก้เกี้ยว ชี้มอง ปชช.ตัดสินใจเองไม่ได้ ย้ำมีปัญหาแน่ สวน ปธ.กมธ.ปฏิรูปการเมืองอย่าพาดพิงถึง “ควง” อดีต หน.พรรค เย้ยหลงตัวเองคิดว่าเป็นดาวฤกษ์ มุ่งเชลียร์ คสช. ท้าลงเลือกตั้งแข่งกัน

วันนี้ (4 มี.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เห็นด้วยให้มี ส.ว.มาจากการสรรหาจำนวน 200 คน ในระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 5 ปี ว่าชัดเจนแล้วว่าผู้มีอำนาจเอากับแนวคิดนี้ทั้งที่เป็นการกลับหลักการการเลือกตั้ง ส.ว.ทางอ้อมโดยกลุ่มอาชีพที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) คิดและเขียนในไว้ร่างรัฐธรรมนูญแรกอย่างสิ้นเชิง ทั้งที่ก่อนจะรับตำแหน่งประธาน กรธ.เข้าใจว่า ทั้งนายมีชัยและนายกรัฐมนตรี จะมีการพูดคุยและเข้าใจในการทำหน้าที่ แต่สุดท้ายกลายเป็นรัฐบาลมากลับหลักการเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าคนร่างหรือ กรธ.ไม่ได้มีอำนาจจริง แต่เป็นแค่การทำตามคำสั่งของผู้มีอำนาจที่แต่งตั้ง เข้าใจว่าเขาเคาะแล้วว่าจะเอาแบบนี้แน่นอน มันจึงไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยและไม่ใช่การคืนประชาธิปไตยให้ประชาชนด้วย แต่เป็นการสืบทอดอำนาจ

ส่วนที่มีการอ้างว่าหากปล่อยให้มีการเลือกตั้งก็จะกลายเป็นสภาผัวเมียหรือสภาครอบครัวนั้น เป็นเพียงแค่คำพูดแก้เกี้ยว เพราะในร่างแรกของนายมีชัยก็เขียนห้ามไว้ชัดเจนอยู่แล้ว การยึดหลักคิดนี้ชัดเจนว่าเขาไม่ยอมรับการตัดสินใจของประชาชนหรือมองว่าประชาชนคนไทยตัดสินใจเองไม่ได้ ผู้มีอำนาจจึงตัดสินใจแทน เพราะมองว่าประชาชนยังเป็นเด็กยังละอ่อน หรือยังใช้ดุลยพินิจไม่ถูก การที่ตนออกมาท้วงติงเพราะมองเห็นว่าหากมีการแก้ไขโดยกลับหลักการเกี่ยวกับ ส.ว.จะสร้างปัญหาในอนาคต

เมื่อถามว่า เป็นความตั้งใจของผู้มีอำนาจหรือไม่ที่จงใจเขียนรัฐธรรมนูญออกมาเช่นนี้ เพื่อไม่ให้ผ่านประชามติและอาจหยิบรัฐธรรมนูญฉบับใดมาบังคับใช้หรือร่างขึ้น เพื่อยืดเวลา นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ถ้าเขียนออกมาตามแนวคิดที่เพิ่งมาโผล่ตอนท้ายนี้มันไม่ดีแน่และมีปัญหาแน่

นายนิพิฏฐ์ยังกล่าวโต้ตอบนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนปฏิรูปด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) พาดพิงให้ตนดูกำพืดตัวเองและหลงตัวเองว่าเป็นราชสีห์ ว่าตนเป็นราชสีห์จริงๆ ไม่ใช่แค่คิดว่าจะเป็น จึงไม่จำเป็นต้องนำหนังราชสีห์มาห่ม เพราะอยู่พรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียวมาตั้งแต่ยุคที่มี ส.ส.อยู่ 44 คน จนถึงยุคที่มี ส.ส.เกือบ 200 คน ร่วมอยู่ร่วมสร้างและร่วมสืบทอดเจตนารมณ์พรรคมาตลอด ฉะนั้นอย่าพูดเลยเถิดไปถึงนายควง อภัยวงศ์ อดีตหัวหน้าพรรคในยุค 2475 เพราะมันลึกเกินไป และพาดพิงถึงผู้ล่วงลับ เอาแค่นายเสรีกับตนก็พอ ส่วนเรื่องการหลงอำนาจนายเสรีคงคิดว่าตัวเองเป็นดาวฤกษ์มีแสงในตัวเอง ทั้งที่จริงเป็นแสงจากดาวใหญ่ที่นายเสรีเป็นบริวารในหมู่ดาวเคราะห์และแสงนั้นมาตกกระทบจึงหลงว่าเป็นแสงของตัวเอง

“หากรัฐบาลและ คสช.ทำอะไรถูกก็ชม แต่สิ่งไหนทำไม่ถูกก็ตำหนิ ไม่ใช่หลับหูหลับตาชม ไม่ใช่นิสัย เช่น อุจจาระทหารเหม็นก็บอกเหม็น ไม่ใช่บอกหอมอย่างที่นายเสรีบอกสังคม เราต่างกันที่จุดนี้ ถ้านายเสรีชื่นชมว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้ว่าดี ปราบคนโกง ก็ถือเป็นโอกาสดีที่สุดในชีวิตที่จะตั้งพรรคการเมือง และลงเลือกตั้งอีกครั้ง แม้ครั้งก่อนจะตั้งพรรคแล้วสอบตกยกพรรคอาจเป็นเพราะรัฐธรรมนูญปี 50 ไม่ดี ฉะนั้นเมื่อร่างรัฐธรรมนูญนี้ออกมาใช้ อาจทำให้สอบได้ทั้งพรรค นายเสรีอาจเป็นนายกฯ ก็ได้ ผมขอเสนอให้ใช้ชื่อพรรคว่าเสรีประชาธิปไตย โดยไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ ถ้าแน่จริงของให้ลงเลือกตั้งแข่งขันกัน” นายนิพิฏฐ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น