“ประวิตร” แจงปรับมาตรการ รปภ.ทำเนียบให้เข้าที่เข้าทาง ไม่เกี่ยวสถานการณ์อะไร เข้มขึ้นเพื่อความเป็นสากล ชี้ ส.ว.สรรหาทั้งหมดช่วงเปลี่ยนผ่านไม่มีองค์กร ทำหน้าที่เพิ่มยุทธศาสตร์-ปฏิรูป 4 มี.ค.ดีเดย์ปราบผู้มีอิทธิพล ย้ำตั้งแต่เข้ามา ตร.ไม่มีซื้อขายตำแหน่ง เมินสอบย้อนหลังขอให้เอาหลักฐานมาดู พูดลอยๆ ไม่ได้ ย้อน “วัฒนา” พูดไม่จริงเหตุเจอทหารบุกบ้าน แย้มคงชวนไปกินข้าว
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาลว่า เป็นการจัดให้เข้าที่เข้าทาง ไม่ได้เกี่ยวกับสถานการณ์การข่าวอะไรทั้งสิ้น เพียงเราระมัดระวังไว้ จากนี้จะให้ประตูหน้าเป็นประตูเข้าออกสำหรับนายกรัฐมนตรีและแขกต่างประเทศ คณะรัฐมนตรีก็ต้องขอความร่วมมือด้วย ขณะที่ผู้สื่อข่าวจะให้เข้าอีกประตู ต่อไปจะมีความเข้มงวดมากขึ้นในการเข้าออกทำเนียบฯ เชื่อว่าอีกไม่นานการจัดระเบียบดังกล่าวจะเข้าที่ เพราะจากการเดินทางไปประเทศต่างๆ เขามีความเข้มงวดในพื้นที่ทำงานของผู้นำเป็นอย่างยิ่ง เราจึงอยากทำให้เป็นสากล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ซึ่งประจำทำเนียบรัฐบาล ได้เริ่มจัดระเบียบในส่วนของการจราจรทั้งในและรอบทำเนียบรัฐบาล โดยห้ามรถที่ไม่มีสติกเกอร์อนุญาตเข้าทำเนียบรัฐบาลเข้ามาในพื้นที่ และกำหนดพื้นที่จอดรถตามสีสติกเกอร์เท่านั้น ขณะเดียวกัน ห้ามรถขบวนของรัฐมนตรีจอดบริเวณรอบตึกไทยคู่ฟ้าแม้แต่คันเดียว อย่างไรก็ตาม จากการจัดระเบียบวันแรกอาจทำให้เจ้าหน้าที่และข้าราชการที่เข้าปฏิบัติงานในทำเนียบฯ ที่ยังไม่ทราบรายละเอียดดังกล่าวอาจต้องปรับตัวในช่วงแรก
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงแนวคิดการให้มี ส.ว.สรรหาทั้งหมดในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปีว่า เพื่อจะได้ทำงานร่วมกันกับ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง ในการปฏิรูปและปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติให้เป็นตามกรอบที่วางไว้ เมื่อถามว่า ส.ว.จะกลายเป็นองค์กรหนึ่งในช่วงเปลี่ยนผ่านใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีองค์กร เขาทำหน้าที่เหมือน ส.ว.ปกติ แต่หน้าที่ที่เพิ่มขึ้นมาคือเรื่องยุทธศาสตร์และการปฏิรูป
พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อถึงมาตรการปราบปรามผู้มีอิทธิพลว่า เรื่องนี้ตนเริ่มมา 4 เดือนแล้ว รู้แล้วว่าใครบ้าง ตั้งแต่วัน 4 มี.ค.เป็นต้นไป จะเริ่มเข้าไปหาคนเหล่านี้ ไปดูว่าใครทำอะไรผิด ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะรายชื่อต่างๆ เราได้หาไว้แล้ว
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตเลขานุการคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปอำนาจหน้าที่และกระบวนการทำงานตำรวจ เพื่อประโยชน์ของประชาชน สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ออกมาเปิดเผยว่ามีการซื้อขายตำแหน่งในวงการตำรวจว่า ยืนยันว่าช่วงที่ตนเข้ามาไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง เพราะตั้งแต่ผู้บัญชาการตำรวจลงไปเขาต้องดูแลเรื่องนี้ ไม่ใช่เอาตำแหน่งมาขายกัน ถ้ามีคงเป็นการตกเบ็ด เมื่อถามว่า เมื่อมีการเปิดเผยเช่นนี้แล้วจะมีการตรวจสอบย้อนหลังหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่มี จะไปตรวจสอบใคร คำพูดคนพูดไปเรื่อย พอให้เอาหลักฐานมาดู ไม่ใช่ไปว่าใครคนใดคนหนึ่ง จะว่าเขาได้อย่างไร ถ้ามีก็บอกมา คนที่เสียเงินให้บอกมา จะได้รู้ว่าใคร” เมื่อถามย้ำว่าจะมีการดำเนินการต่อคนที่ออกมาพูดลอยๆ หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขณะนี้ก็ได้มีการดำเนินการต่อคนที่ออกมาพูดลอยๆ ที่พูดในไลน์มันไม่ได้ ทำให้เสียหายถึงองค์กร
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่มีทหารบุกไปที่บ้านนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ช่วงเช้าวันนี้ (2 มี.ค.) ว่า “ก็ไปทำอะไรไว้ล่ะ ไปพูดอะไร ว่าเราก็ต้องเรียกมาหน่อย ก็พูดไม่จริงนี่” ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการไปรับตัวนายวัฒนาเพื่อมาปรับทัศนคติหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่องปรับทัศนคติหรือไม่ ขอให้เป็นเรื่องของทหารว่ากันไป ทหารไปที่บ้านนายวัฒนาเมื่อเช้านี้เขาคงชวนไปกินข้าว