รมต.สำนักนายกฯ แจงประชุมวิป 3 ฝ่าย หนุนปรับปรุงระบบบริการประชาชนของตำรวจ เตรียมเสนอ “ประยุทธ์” ให้เร่งรัด เล็งจัดกลุ่มกฎหมายใหม่ตามคำสั่งการนายกฯ เน้นกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ต้องเสร็จภายใน ก.ค.60 ตามโรดแมป
วันนี้ (24 ก.พ.) ทำเนียบฯ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานรวม 3 ฝ่ายว่าได้มีการพิจารณาปรับปรุงระบบการบริการประชาชนในเรื่องของการแจ้งความและสอบสวน ถือเป็นประเด็นปฏิรูปเรื่องหนึ่งที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ส่งมาให้ ครม.พิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป ที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายเห็นว่าเรื่องนี้มีประโยชน์ต่อสังคม เพราะเป็นเรื่องของการปรับปรุงระบบการให้บริการประชาชนของตำรวจ เพิ่มประสิทธิภาพของการรับแจ้งความและการสอบสวน
นายสุวพันธุ์กล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้วิป 3 ฝ่ายเห็นว่าเป็นเรื่องดี มีประโยชน์ ควรจะมีการขับเคลื่อน จึงเห็นว่าควรจะนำเรื่องนี้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีและรองนายกฯ เพื่อเร่งรัด ขับเคลื่อนการปรับปรุงระบบงานบริการประชาชนที่เกี่ยวข้องการงานรับแจ้งความ และการสอบสวน ซึ่งเชื่อว่าระบบใหม่นี้จะดีขึ้น และยังเป็นการเชื่อมโยงในเรื่องของการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของตำรวจเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะการแจ้งความ หรือช่วยในเรื่องของการลดคดี และการไกล่เกลี่ยในชั้นสอบสวน อย่างไรก็ตาม ทางกฤษฎีกาได้แจ้งว่าปัจจุบันเรามีกฎหมายไกล่เกลี่ย ทั้งชั้นสอบสวน และคดีอาญา รวมถึงคดีแพ่งอยู่แล้ว ดังนั้นก็จะมีการนำไปเร่งรัดให้เกิดเป็นรูปเป็นร่างและเสนอต่อสภาให้ได้โดยเร็วต่อไป
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาในที่ประชุมวันนี้เป็นผลมาจากการที่นายกฯ ได้สั่งการในที่ประชุมครม.ให้มีการจัดกลุ่มกฎหมายใหม่ โดยเฉพาะกฎหมายที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม และอยากให้พิจารณาให้เสร็จสิ้นภายใน กรกฎาคม 2560 ตามโรดแมป ดังนั้น ทางวิปรัฐบาลจะไปจัดกลุ่ม และได้ให้ สปท.ไปดูกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูป หรือที่เห็นว่ามีประโยชน์กับสังคมก็ขอให้ส่งมาที่เลขาฯ ของวิป 3 ฝ่ายเพื่อจะได้จัดกลุ่มให้ได้ 3 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มที่จะเป็นประโยชน์กับสังคมโดยเร็ว เราจะทำให้เสร็จสิ้นให้ได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2560 กลุ่มที่ 2 จะทำไปพร้อมๆ กัน อาจจะเสร็จหรือไม่เสร็จก็จะจัดเป็นลำดับลองลงมา ส่วนกลุ่มที่ 3 จะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำให้เสร็จสิ้นได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2560 แต่จะมีข้อมูลการศึกษาเบื้องต้นไว้เพื่อให้รัฐบาลใหม่ได้พิจารณาดำเนินการต่อไป