โฆษก กอ.รมน.แจงภารกิจเร่งด่วน สนองรัฐเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ ย้ำไม่ได้ชี้นำ ทำตามคำแนะนำของ กกต. ยันไม่ซ้ำซ้อน รด.จิตอาสา เพราะถือเป็นหน้าที่ราชการ ส่วนเรื่องม็อบพระชี้เรื่องละเอียดอ่อน นายกฯ สั่งทุกฝ่ายทำความเข้าใจ ลดขยายความเห็นต่าง ชี้หากเคลื่อนไหวสุ่มเสี่ยงละเมิดกฎหมาย
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.ต.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน. กล่าวถึงการทำงานเร่งด่วนของ กอ.รมน. เพื่อสนองนโยบายการดำเนินงานของรัฐบาลว่าในช่วงเวลานี้ สำหรับงานที่กำลังดำเนินการอยู่ คือ การเสริมสร้างการรับรู้ของร่างรัฐธรรมนูญร่างเเรกเพื่อนำไปสู่การลงประชามติ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงรับฟังความความคิดเห็น
ทั้งนี้ กอ.รมน. ถือเป็นหน่วยงานราชการหน่วยหนึ่ง ที่สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ซึ่งขอย้ำว่าไม่ได้ไปชี้นำประชาชนให้มีความคิดเห็นตามที่เราต้องการ หากแต่ช่วยทำความเข้าใจ ศึกษาและเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การทำงานของ กอ.รมน.เป็นไปตามคำแนะนำของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งย้ำว่าเป็นไปตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า เเนวทางการดำเนินงานของ กอ.รมน.ในการเสริมสร้างความเข้าใจถือเป็นการซ้ำซ้อนของ รด.จิตอาสา หรือไม่ พล.ต.บรรพตกล่าวว่า ถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกหน่วยราชการที่จะต้องศึกษาทำความเข้าใจและช่วยเผยเเพร่ร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ถือเป็นแม่น้ำสายหนึ่งของแม่น้ำ 5 สาย โดยหน่วยงานอื่นก็ได้ส่งความคิดเห็น ข้อเเนะนำและปรับปรุงต่อร่างรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นจึงมีโอกาสที่จะแก้ไขได้อีก
เมื่อถามว่า กอ.รมน.จะส่งเจ้าหน้าที่เพื่อไปชี้แจงต่อประชาชนอย่างไร พล.ต.บรรพตกล่าวว่า ทาง กอ.รมน.ก็มีเครือข่ายในการทำงานอยู่แล้ว ซึ่งจะสามารถสร้างความรับรู้ให้ประชาชนได้ โดยทุกเครือข่ายของ กอ.รมน.จะช่วยรณรงค์ให้ประชาชนออกมาลงประชามติ
เมื่อถามว่า อยู่ระหว่างการรณรงค์ประชามติทาง กอ.รมน.มีความกังวลปัจจัยทางการเมืองที่จะมาแทรกซ้อนหรือไม่ พล.ต.บรรพตกล่าวว่า เรื่องการทำความเข้าใจร่างรัฐธรรมนูญก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่อยากให้เป็นไปตามแนวทางที่ศึกษาทำความเข้าใจและสร้างการรับรู้ซึ่งอยากให้ทุกส่วนยึดตรงจุดนี้ ซึ่งไม่อยากให้มีการโน้มน้าวไปทางใดทางหนึ่ง
เมื่อถามว่า ผลการตอบรับของการร่างรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร พล.ต.บรรพตกล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวเรายังไม่ได้มีการประเมินแต่อย่างใด อีกทั้ง กอ.รมน.ไม่ได้มีหน้าที่ในการสำรวจความคิดเห็น ซึ่งรวมทั้งไม่ได้มีหน้าที่ประเมินทัศนคติทางการเมืองอยู่แล้ว
พล.ต.บรรพตยังกล่าวถึงกรณีความเคลื่อนไหวของคณะสงฆ์กลุ่มต่างๆ ว่า ในเรื่องที่เกี่ยวกับมิติของศาสนาถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกและศรัทธาของศาสนิกชน ทุกฝ่ายควรระมัดระวังการแสดงความเห็นเฉพาะฝ่ายเดียวในทุกช่องทาง ในส่วนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายพยายามทำความเข้าใจ ลดการขยายความเห็นต่าง และหาทางออกร่วมกันให้ได้ข้อยุติ
สำหรับมุมมองของฝ่ายความมั่นคงนั้น หากปรากฏการรวมพลังเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ อาจเข้าข่ายสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดกฎหมายที่มีอยู่เดิม และกฎหมายใหม่ที่มีผลบังคับใช้ด้วย