กรุงเทพโพลล์ สำรวจประชาชนส่วนใหญ่ 72% ติดตามการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ คนใหม่ 42% เชียร์ “สมยศ” นั่งนายใหญ่ฟุตบอล 66% ห่วงเลือกตั้งไม่โปร่งใส 78% หวังการเปลี่ยนผู้นำสมาคมฯคนใหม่จะพาไทยไปบอลโลก
เนื่องในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ จะมีการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงได้สำรวจความคิดเห็น เรื่อง “ความคาดหวังของแฟนบอลต่อนายกสมาคมฟุตบอลคนใหม่กับการพาบอลไทยไปบอลโลก” โดยเก็บข้อมูลจากแฟนบอลที่ติดตามข่าวสารฟุตบอลไทยจำนวนทั้งสิ้น 1,112 คน เมื่อวันที่ 6 - 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พบว่า
ผลสำรวจแฟนบอลร้อยละ 92.6 เห็นว่า ปัจจุบันกระแสบอลไทยคึกคักขึ้นมาก คนไทยติดตามเพิ่มขึ้น ขณะที่ร้อยละ 6.6 เห็นว่า ยังทรง ๆ เหมือนเดิม มีเพียงร้อยละ 0.8 ที่เห็นว่าไม่ค่อยคึกคักคนไทยติดตามลดลง
เมื่อถามว่าปัจจุบันทีมฟุตบอลไทยเป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ร้อยละ 93.8 เห็นว่า มีการพัฒนาขึ้น ขณะที่ร้อยละ 5.8 เห็นว่า ยังคงย่ำอยู่กับที่ มีเพียงร้อยละ 0.4 ที่เห็นว่าแย่ลงกว่าเดิม
สำหรับปัจจัยที่จะช่วยทำให้ทีมฟุตบอลไทยมีโอกาสได้ไปบอลโลกมากขึ้นในความเห็นของแฟนบอลพบว่าอันดับแรก คือ ความเข็มแข็งของลีกฟุตบอลในประเทศ (ร้อยละ 64.5) รองลงมาคือ การเปลี่ยนแปลงการบริหารงานของสมาคมฟุตบอล
(ร้อยละ 55.5) และการพัฒนาศักยภาพโค้ช ผู้ฝึกสอน (ร้อยละ 47.7)
ทั้งนี้ เมื่อถามต่อว่าปัจจุบันทีมชาติไทยมีศักยภาพพอที่จะไปเล่นฟุตบอลโลกหรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 51.5 คิดว่ามีศักยภาพพอ ขณะที่ร้อยละ 48.5 คิดว่ายังไม่มีศักยภาพ
ด้านการติดตามการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯคนใหม่ แทน นายวรวีร์ มะกูดี ในวันที่ 11 ก.พ. 59 ที่จะถึงนี้พบว่า แฟนบอลส่วนใหญ่ร้อยละ 72.8 มีการติดตามการเลือกตั้ง ขณะที่ร้อยละ 27.2 ไม่ได้มีการติดตาม
ส่วนความเชื่อมั่นต่อความโปร่งใสในการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 66 มีความเชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ขณะที่ร้อยละ 34.0 มีความเชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
โดยแฟนบอลร้อยละ 42.6 อยากได้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่มากที่สุด รองลงมาคือ ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน (ร้อยละ 28.2) และนายวนัสธนา (ธวัชชัย) สัจจกุล (ร้อยละ 23.8)
สุดท้ายเมื่อถามว่าการเปลี่ยนแปลงนายกสมาคมฟุตบอลในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ฟุตบอลไทยได้ไปฟุตบอลโลกหรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 78.6 คิดว่า จะช่วยเพิ่มโอกาสได้ ขณะที่ร้อยละ 21.4 คิดว่าเหมือนเดิมไม่ได้ช่วยอะไร