นายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มความเข้มงวดวินัยจราจร โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ หลังถูกร้องเรียนจำนวนมาก พร้อมจัดทีมตำรวจพิเศษ “สมาร์ทโปลิศ” ให้ประชาชนหลาบจำ พร้อมกำชับเรื่องที่จัดระเบียบไปแล้วให้ติดตามสม่ำเสมอ
วันนี้ (28 ม.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มความเข้มงวดในการกวดขันวินัยจราจรผู้ใช้รถใช้ถนนโดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งมักมีพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎจราจรเสี่ยงอันตราย เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศเรื่องความไร้ระเบียบวินัย
“นายกฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมบนท้องถนนจำนวนมาก ทั้งเรื่องผู้ขับรถแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร การเรียกเก็บค่าบริการแทนการกดมิเตอร์ เด็กแว๊น การแต่งรถที่ผิดกฎหมาย เช่น เปลี่ยนสีไฟหน้ารถ รวมทั้งการขับขี่รถย้อนศรและวิ่งออกก่อนสัญญาณไฟเขียวโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์
จึงสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปหารือร่วมกับ คสช. และฝ่ายปกครอง เพื่อกำหนดแนวทางให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจตราพื้นที่ เสริมจากภารกิจปกติของตำรวจในแต่ละพื้นที่ งานจราจร งานชุมชนสัมพันธ์ ชุดแพทย์เคลื่อนที่ ฯลฯ ในลักษณะทีมตำรวจพิเศษ “สมาร์ทโปลิศ” โดยเน้นปราบปรามผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดและต่อเนื่อง เช่น ยึดรถหรือใบขับขี่ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเกิดความเชื่อมั่นไว้วางใจและผู้กระทำผิดหลาบจำ” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
พล.ต. สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียังได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ได้ดำเนินการจัดระเบียบไปแล้ว เช่น รถตู้ วินมอเตอร์ไซค์ ทางเดินเท้า ชายหาด บ่อนการพนัน ตู้ม้า ฯลฯ ให้ลงไปตรวจสอบติดตามผลการการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยปละละเลยให้ปัญหาความไม่เป็นระเบียบหรือฝ่าฝืนกฎหมายกลับมาอีกครั้ง โดยให้มีมาตรการประเมินผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นระยะ.