“ประวิตร” หารือตัวแทนอียู พอใจแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย ยังไม่รู้ปลดล็อกใบเหลืองไทยหรือไม่ เผยแนะให้ไทยเร่งรัดความชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมาย จัดการเรือ โรงงานแปรรูปผิดกฎหมาย ส่งสัญญาณให้นานาชาติเห็นความจริงใจในการแก้ปัญหา
ที่กระทรวงกลาโหม วันนี้ (22 ม.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้การต้อนรับนายซีซา เดเบน ที่ปรึกษาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย Illegal Unreported and Unregulated fishing (ไอยูยู ฟิชชิ่ง) และคณะที่เดินทางมาหารือถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาประมงที่ผิดกฎหมาย โดยมี พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำสหประชาชาติ ในฐานะหัวหน้าผู้ประสานงานฝ่ายไทยกับอียูเข้าร่วมหารือด้วย
พล.อ.ประวิตรกล่าวภายหลังการหารือว่า อียูมาแนะนำเพื่อให้เป็นหลักสากล ตามความเป็นจริงแล้วเราก็ทำได้มากแล้ว แต่ยังมีบางเรื่องในการบังคับใช้กฎหมายที่ต้องใช้เวลา เนื่องจากเพิ่งผ่านพระราชกำหนด ทั้งนี้เราได้ดำเนินการแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์ การดำเนินการจับกุมเกี่ยวกับเรือที่ผิดกฎหมายต่างๆ ที่อยู่นอกน่านน้ำ ที่เราเรียกมาแล้วเขาไม่กลับ ก็ต้องมีมาตรการชัดเจน ว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย มีทั้งเจ้าหน้าที่กรมประมง กรมเจ้าท่าที่ดำเนินการเกี่ยวกับเรือนอกน่านน้ำ
ทั้งนี้ยังมีแรงงานตามโรงงานต่างๆ และเป็นแรงงานอายุน้อย อย่าใช้เป็นแรงงานทาส ต้องใช้แรงที่ทำให้เกิดประโยชน์ รวมถึงพวกอาหารทะเลของการประมงต่างๆ ต้องมีที่อยู่อย่างชัดเจนว่าเราจับมาได้จากที่ไหน ซึ่งทางอียูก็เห็นด้วย พยายามให้เราได้ทำเต็มที่ โดยในช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ เราจะดำเนินการเพื่อให้เกิดความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ในสิ่งที่ค้างอยู่ เช่นที่ออกหมายจับเรือประมงไปแล้วยังไม่สามารถจับได้ก็ต้องจับให้ได้ในระยะเวลาดังกล่าว
“เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องเก่าที่เราได้ดำเนินการ ทั้งนี้ อียูบอกว่าตามระยะเวลา ปีกว่าๆ ที่เราทำมาดีขึ้นมาก แต่ก็ต้องทำตามหลักสากล เพื่อให้เกิดความยังยืนและต่อไปในอนาคตก็ต้องไม่มีอีก โดยเฉพาะพวกที่ประกอบอาชีพประมง เจ้าของเรือ ต้องทำให้ถูกต้อง มีใบประกอบอาชญาบัตรที่ถูกต้อง ไม่ใช่ไปทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง เสียหาย ส่งผลต่อรัฐบาล และทำให้อาชีพประมงเสียหาย”
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังการพูดคุยกับอียู ได้มีการส่งสัญญาณปลดล็อคใบเหลืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ส่ง เขาไม่ส่งอะไรทั้งนั้น ทางอียูบอกเราว่าต้องทำให้ดี เราก็บอกว่าเราจะทำดีๆ ส่วนเรื่องระยะเวลาในการปรับแก้ ยังไม่ได้แจ้ง ต้องรอให้ทางอียู ตรวจสอบให้เสร็จสิ้นเสียก่อน อย่าเพิ่งรีบร้อน ทางอียูต้องการให้เราทำต่อไป อาจจะเป็นการทำไปเรื่อยๆ ก็ได้ ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องทำ ไม่ว่าจะโดนใบแดง ใบเหลือง หรือใบเขียว ก็ต้องทำต่อไป ดังนั้นไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวล เราต้องทำให้ดี อียูต้องการให้เราบังคับใช้กฎหมาย ให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างจริงจัง ต้องการให้พวกที่ประกอบอาชีพประมงและการใช้แรงงานทำให้ถูกต้อง โดยดูแลเรื่องการค้ามนุษย์เป็นเรื่องสำคัญที่ทางไอียูให้ความสนใจ
ทางด้านนายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ประเด็นสำคัญคือยืนยันว่ารัฐบาลให้ความมั่นใจกับอียูว่าเราจะเดินหน้าเต็มที่ในการบังคับใช้กฎหมาย และการแก้ไขปัญหาตามข้อสังเกตของอียู รวมถึงการยกระดับความสามารถของเจ้าหน้าที่ และดูบางคดีที่เป็นคดีเฉพาะ ซึ่งในภาพรวมทางอียูพอใจ แต่อยากให้เราปรับปรุงบางประการในช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์นี้ โดยพล.อ.ประวิตร ก็รับทราบ และก็พอใจที่เราดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่ก็ต้องรอผลการดำเนินการอีกช่วงเวลา คือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ว่าการดำเนินการทั้งหมดจะคืบหน้าเท่าใด ทั้งนี้ภาพรวมเป็นไปได้ด้วยดี เรามีตารางการทำงานที่แลกเปลี่ยนกับอียู และทุกเรื่องก็มีคณะทำงาน ประสานงานกัน
ส่วนทางอียูได้บอกหรือไม่จะตัดสินใจเมื่อไหร่ นายปณิธานกล่าวว่า เป็นเรื่องภายในของเขา แต่ในภาพรวมคงมีเวลาอีกสักพักว่าเราจะดำเนินการแก้ไขปัญหาทุกอย่างโดยไม่รีรอ ที่ผ่านมาก็ทำไปได้มาก และภายในสัปดาห์หน้าจะมีความคืบหน้าหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องคดีความ ส่วนกรอบการทำงานใหญ่เราเดินหน้าไปได้ครบ ทั้งเรื่อการออกกฎหมาย การติดตามเครื่องมือ การติดตามคดี การติดตามศักยภาพของเจ้าหน้าที่ ซึ่งการคุยในครั้งนี้เป็นการคุยในเชิงนโยบาย เพื่อผลักดันการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม เราส่งสัญญาณชัดเจนว่านายกรัฐมนตรี และรองนายกฯ รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบปัญหา และกำลังแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นสัญญาณบวก ส่วนข้อปฏิบัติต้องรอผลในสัปดาห์หน้าว่าอียูจะพอใจหรือไม่
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า คณะอียูได้แนะนำไทยในการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย ใน 3ประเด็นหลัก คือ 1. ไทยต้องเร่งรัด มีความชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมายประมง และ ทุกฝ่ายต้องทำตามกฎหมาย 2. หากพบเรือ โรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ หรือผลิตภัณฑ์ใดมาจากการทำประมงผิดกฎหมาย จะต้องเข้าแซงชั่นทันที 3. ไทยต้องร่วมมือกับทุกฝ่ายและส่งสัญญาณไปยังนานาชาติให้เห็นความจริงใจและตั้งใจของไทยในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นตลอด 2 ปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าใน 6 เดือนข้างหน้า การทำงานที่ทางการไทยดำเนินการอยู่นั้นจะเห็นผลอย่างชัดเจนมากขึ้น
ทั้งนี้ อียูยังฝากให้ดูแลความเป็นอยู่ของแรงงานทั้งหมดไม่เฉพาะแรงงานประมง พร้อมแนะนำว่าไทยควรแสดงท่าทีให้ชัดเจนว่าไทยไม่สนับสนุนเรือประมงนอกน่านน้ำที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายสากล และยังขอให้ไทยคุ้มครองการทำประมงชายฝั่งในระยะ12ไมล์ทะเล รวมถึงต่อต้านการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรได้ย้ำว่าไทยจะยึดกฎหมายสากล ทำตามคำแนะนำของคณะอียู และจะบังคับใช้กฎหมายประมงใหม่ของไทยอย่างเข้มงวด แต่ขอให้อียูเชื่อมั่นและให้เวลาไทย เพื่อการแก้ปัญหาในระยะยาว