รองนายกฯ ป้อง “ประยุทธ์” ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดปมตั้งพระสังฆราช ชี้เรื่องละเอียดอ่อน ขออย่าคุ้ยแคะให้ขัดแย้ง เหตุเป็นเรื่องไม่สวยงามของชาติ ย้ำหน้าที่รัฐต้องทำให้ชัดเจน แย้มตั้งไม่ได้ก็รักษาการไปก่อนแต่คงไม่นานถึง 10 ปี แจง รบ.ปรองดองช้าเหตุบางส่วนทำไม่ได้ บางส่วนตั้งใจช้า ต้องดูจังหวะกาลเทศะ แนะอดีตบอร์ด สสส.คาใจถูกปลดสอบถามได้
วันนี้ (11 ม.ค.) ทำเนียบฯ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ว่า ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร ส่วนที่มีการวิจารณ์คำพูดของนายกฯลักษณะเหมือนว่านายกฯไปเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดนั้น ความจริงไม่ใช่เลย แต่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เมื่อมีใครถามก็ต้องตอบอย่างนี้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการส่งรายชื่อมาที่รัฐบาลแต่อย่างใด
“เรื่องการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะเป็นเรื่องของการสถาปนาตำแหน่งสำคัญที่อยู่บนความเชื่อถือและศรัทธา การที่จะมาคุ้ยแคะอะไรกันก่อนจนกระทบต่อศรัทธาอีกฝ่ายจนเป็นชนวนขัดแย้งชี้งก็ต้องระวังเพราะหากวันหนึ่งทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่พยายามออกแรงกันอยู่ก็จะเกิดปัญหาได้ ซึ่งการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชนั้น ต้องอาศัยทั้งกฎหมายและโบราณประเพณีที่สืบต่อกันมา” รองนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เป็นไร เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่อย่าเพิ่งไปคิดอะไรที่ข้ามขั้นตอนจนเกินไป เพราะตามขั้นตอนแล้วจากมหาเถรสมาคม ก็มาถึงขั้นตอนของรัฐบาล และสุดท้ายขั้นตอนของราชสำนัก ทั้งนี้ไม่ว่าจะมีการสถาปนาหรือไม่มีการสถาปนา หรือจะรักษาการไปพลางก่อน ทั้งหมดนี้ต้องมีคำตอบทั้งสิ้น แต่ให้ถึงเวลาก่อน
“หากขอร้องได้ ถ้าเขาฟังนะ ก็อยากขอร้องกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวว่าอย่าทำอะไรจนกลายเป็นความขัดแย้ง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตอนนี้หนักถึงขนาดใช้คำหยาบคายกันแล้ว และสุดท้ายหากท่านเป็นขึ้นมาจริงๆ แล้วจะวางหน้ากันอย่างไร ดังนั้นต้องระมัดระวัง ปัญหาเรื่องยางพารา เรื่องน้ำ ยังไม่ค่อยเท่าไหร่นัก แต่มาขัดแย้งกันเรื่องพระ มันคงไม่สวยงามสำหรับประเทศไทย ดังนั้นขอยืนยันว่าถึงอย่างไรรัฐบาลก็คงต้องปฏิบัติตามกฎหมายและต้องปรึกษาหารือกับทางคณะสงฆ์ แต่จะบอกกับประชาชนแค่ไหน อย่างไร มันมีข้อที่ต้องระวังเหมือนกัน” นายวิษณุกล่าว
เมื่อถามว่าหากยังมีข้อขัดแย้งอยู่ก็จะไม่มีการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีใครพูดอย่างนั้น ในส่วนของรัฐบาล ไม่ว่าตำแหน่งใดก็ตาม ถ้ายังมีความขัดแย้ง ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำให้ชัดเจน ก่อนที่จะนำความกราบบังคมทูล
เมื่อถามว่า เป็นห่วงว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งในวงการศาสนาหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า อะไรก็ตามที่เป็นเรื่องความขัดแย้ง และนำไปสู่ความไม่ปรองดองถือว่าเป็นปัญหาทั้งสิ้น ก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุดสำหรับรัฐบาล ด้วยการสร้างความเข้าใจ แต่ถ้าไม่เข้าใจก็ต้องใช้กฎหมาย อย่างไรก็ตามหากยังไม่สามารถแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชได้ ก็ต้องใช้วิธีรักษาการไปก่อนเหมือนที่เคยปฏิบัติมา แต่คงไม่ใช่ให้รักษาการเป็นสิบๆ ปี ซึ่งต้องดูความเหมาะสมด้วย
นายวิษณุกล่าวถึงกรณีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเสริมสร้างสังคมสันติสุขว่า ตนทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ แต่ยังไม่ทราบในรายละเอียด และทาง สนช.ก็ไม่ได้หารือเรื่องดังกล่าวมายังรัฐบาล เป็นเรื่องของประธานสนช.ที่จะดำเนินการในส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่มีการระบุว่ารัฐบาลดำเนินการเรื่องการปรองดองล่าช้านั้น
“ผมรับทราบ แต่รัฐบาลก็ทำอะไรไปหลายอย่างในส่วนที่ทำได้ แต่ก็มีบางส่วนที่ช้าเพราะทำไม่ได้ และมีบางส่วนตั้งใจช้า เพราะความคิดที่จะทำในบางเรื่อง ถ้ารู้ออกไป จะมีคนไม่ยอมปรองดองด้วย และแตกแยกกันเปล่าๆ ต้องดูจังหวะจะโคน ต้องดูกาลเทศะและสถานที่” นายวิษณุกล่าว
นายวิษณุกล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้บริหารสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ยังไม่เข้าใจกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ ชั่วคราว มาตรา 44 สั่งปลดบอร์ด สสส.ทั้ง 7 คนว่า ถ้าเขาถามมา คสช.ก็ส่งคนไปชี้แจง และทุกคนที่ถูกคำสั่งดังกล่าวหากคิดว่า ตัวเองมีปัญหาสามารถสอบถามมายังหน่วยงานตรวจสอบที่มีอยู่ได้ แต่หากไม่ได้รับความสะดวกก็ให้มาถามตน ตนจะได้ไปถามต่อให้แต่จะให้ตนตอบเองไม่ได้ รัฐบาลทราบว่าไม่มีทางที่จะทำอะไรแล้วถูกใจทั้งหมด แต่จำเป็นต้องทำ