สนช.เห็นต่างกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กรธ. ปมที่มา ส.ส. แนะคิดแบบสัดส่วนผสม-ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบเหมือนเดิม ส่วน ส.ว.ให้สรรหาหมด อ้างเลือกทางอ้อมส่อล็อบบี้ หนุนตั้งองค์กรคอยแก้วิกฤต อวย ผ่านประชามติแน่นอนถ้าร่างถูกใจประชาชน
ที่รัฐสภา วันนี้ (25 ธ.ค.) มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธานการประชุม มีวาระการพิจารณารายงานการรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะ และรวบรวมความเห็น เพื่อประกอบการพิจารณา จัดทำร่างรัฐธรรมนูญ พิจารณาเสร็จแล้ว มีสาระสำคัญคือ ควรมี ส.ส.จำนวน 500 คน มาจากแบบแบ่งเขต 350 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 150 คน ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เหมือนที่เคยใช้มา แล้วคิดคะแนนแบบสัดส่วนผสม เขตเลือกตั้งควรเป็นเขตใหญ่เรียงเบอร์ 3 คนต่อ 1 เขต
ส่วน ส.ว.ควรมีจำนวน 200 คน มาจากการสรรหาทั้งหมด และควรคงอำนาจถอดถอนไว้ สำหรับนายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส. แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องมีองค์กรหรือคณะกรรมการเพื่อทำหน้าที่แก้วิกฤตของประเทศ ในกรณีที่ไม่มีบัญญัติไว้ หรือในกรณีที่ไม่สามารถใช้อำนาจบริหารประเทศได้
จากนั้นจึงเปิดให้สมาชิก สนช.อภิปราย เริ่มด้วยนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ กล่าวว่า การเขียนรัฐธรรมนูญประเทศไทยต้องพิเศษ ต้องขัดใจนักการเมือง เพราะที่ผ่านมาเห็นเรียกร้องกันแต่ประชาธิปไตยกัน ซึ่งตนไม่เห็นว่าประเทศไทยจะเป็นเผด็จการตรงไหน แต่ทั้งนี้รัฐธรรมนูญต้องถูกใจประชาชนเพื่อให้ผ่านประชามติแล้วมีการเลือกตั้งตามโรดแมปที่รัฐบาลวางไว้
ส่วน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ กล่าวว่า สนับสนุนให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ แล้วคิดคะแนนแบบสัดส่วนผสมตามแบบประเทศเยอรมนี เหมือนที่ชุดนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เคยเสนอแล้วไม่ผ่าน เพราะถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก เหมาะสมกับประเทศไทย จึงอยากเน้น กรธ.ให้ความสำคัญตรงนี้ด้วย
ด้านนายสมชาย แสวงการ กล่าวว่า ส.ว.ควรมาจากการสรรหาทั้งหมด เพราะการให้เลือกตั้งทางอ้อมอาจจะมีปัญหาเรื่องการล็อบบี้ ต่างจาก ส.ว.สรรหา ที่มีต้นทุนค่าสมัครเพียง 5,000 บาท ต่อมาที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับรายงานข้อเสนอแนะส่งให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ตามมาตรา 39 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 เพื่อนำไปพิจารณาประกอบการร่างรัฐธรรมนูญ ด้วยคะแนน 144 ต่อ 1 เสียง