นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ให้เวลาก่อนปี 60 คดีที่ยังไม่ชัดเจนต้องเรียบร้อย ยันปรองดองต้องมีคนผิด-ถูกก่อนแล้วค่อยว่ากัน ยันส่วนแรกต้องอยู่ในกระบวนการยุติธรรมก่อน แล้วดูผลตัดสิน เอาทุกฝ่ายที่เกิดก่อนรัฐประหาร ทำให้เท่าเทียม บอกรัฐพยายามวางพื้นฐานเดี๋ยวจะหาว่าสืบทอดอำนาจ ถามสิ่งไหนผิดก็บอกมา ลั่นไม่เป็นนายกฯ ให้กับนักการเมืองไหน ชี้เป็นแล้วสั่งเขาได้หรือเปล่า ระบุเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ตนมีอำนาจ ขอกลับไปเลี้ยงหลานดีกว่า เสียเวลา
วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการจัดระเบียบคดีความต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ว่า คดีส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความไม่เป็นธรรม คิดว่าตรงนี้ต้องทบทวน ซึ่งตนให้เวลาในปี 2559 แต่ไม่ได้เป็นการเร่ง หลายคดีที่ไม่มีความชัดเจน ทั้งคดีการเงินคดีอาญา คดีที่เกี่ยวข้องกับความบกพร่องอะไรต่างๆ และคดีความรับผิดชอบ ก่อนปี 2560 จะต้องเรียบร้อย ทั้งนี้ตนไม่ได้ไปสั่งว่าจะต้องทำนู่นทำนี่ แต่เอาทุกกลุ่มเข้ามา ถ้าไม่ทำแบบนี้ เรื่องปรองดองสมานฉันท์ไม่ต้องมาพูดกันเพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย ต้องมีคนผิดคนถูกก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง จะได้หรือไม่ตนยังไม่รู้
“ผมไม่ได้สัญญาว่าจะต้องปรองดองได้ แล้วยกโทษให้ทั้งหมด มันไม่ใช่ ท่านต้องทำส่วนแรกและอยู่ในกระบวนการยุติธรรมกันก่อน แล้วมาดูผลการตัดสินว่าอย่างไร ทั้งหมดจะแก้กันด้วยอย่างไร จะด้วยกฎหมายหรืออย่างไรทำนองนั้น ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวลว่าจะสีนี้สีนู้น ทุกฝ่ายถ้าเกิดก่อน 22 พ.ค.ต้องมาทบทวนใหม่หมด และทำให้เกิดความเท่าเทียม เข้าใจ ไว้เนื้อเชื่อใจให้ได้ ที่ผ่านมาผมเห็นว่าฝ่ายหนึ่งยอม อีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอม อยู่อย่างนี้มาตลอด ฝ่ายยอมไม่เคยไปพูดอะไรให้เขา แต่เราไปพูดให้ฝ่ายที่ไม่ยอมมาตลอด เข้ากฎหมายนี้ท่านต้องแก้ไข คนที่เขายอมเข้าสู่กระบวนการขึ้นศาล เขาเดินตามกฎหมาย สู้กระบวนการยุติธรรมทุกอย่าง ผมไม่ได้เข้าข้างใคร แต่อีกพวกหนึ่งกฎหมายผิดทั้งหมด ผิดทั้งประเทศ ถูกอย่างเดียวคือสิ่งที่เขาทำ ถูกหมดอย่างนี้ ท่านควรจะสร้างความเข้าใจอย่างไรใหม่ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน อะไรที่เป็นปัญหา อย่าเพิ่งพูดในตอนนี้มาก เดี๋ยวจะเป็นปัญหาต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้ต้องการสร้างการรับรู้ใหม่ ไม่ใช่ชี้แจงประชาสัมพันธ์ แล้วสื่อไปถ่ายทอดต่อ ทำนี้ทำนู่นมันไม่ใช่ ที่ผ่านมาทำมาพันกว่าโครงการยึดโยงกันทั้งหมด โดยดูปัญหาเชิงโครงสร้าง รัฐบาลพยายามจะวางพื้นฐาน แต่เดี๋ยวจะหาว่าตนไปกำหนดเพื่อที่จะสืบทอดอำนาจ ผ่านแผนปฏิรูป ผ่านรัฐธรรมนูญ ตนจะสืบให้ใคร เพราะตนไม่อยู่ ถามในห้องนี้คงไม่มีใครอยากอยู่ เป็นช่วงสุดท้ายชีวิตของพวกเราทั้งนั้น และวันหน้าฉันไปแล้วก็พวกเธอทั้งนั้น ลูกหลานทั้งนั้นที่จะได้ประโยชน์ แต่หากคิดว่าสิ่งที่ฉันทำมันผิด ทำเพื่อตัวเองก็บอกมา
พล.อ.ประยุทธ์ยังให้สัมภาษณ์กรณีนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่เสนอให้จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยให้ พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าตอนแรกพรรคเพื่อไทยไม่เคยเสนอแบบนี้ และแต่ก่อนเขาก็ไม่ยอม สื่อจำได้หรือไม่ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการเสนอให้ท่านเป็นนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทันทีว่า “ไม่เป็น ผมไม่เป็นนายกฯ ให้กับนักการเมืองที่ไหนทั้งสิ้น ยืนยันพูดตรงนี้ผมไม่เป็น ผมเป็นแล้วผมสั่งได้หรือเปล่าล่ะ ผมจะไปทำตามเขาและจะไปเป็นตัวแทนเขาทำไม เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่เรื่อย เดี๋ยวเป็นอย่างนู้นอย่างนี้ ไม่เป็น ผมกลับไปเลี้ยงหลานดีกว่า เสียเวลาเปล่า มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมาให้ผมมีอำนาจสั่ง”
โดยผู้สื่อข่าวถามกลับทันทีว่ามีหลานแล้วหรือ นายกฯ ตอบแบบเขินอายว่า หลานคนอื่น ลูกของน้องชายมีเยอะแยะ
