ทูตสหรัฐฯ โผล่พบหัวหน้า ปชป. “เกียรติ” เผยถกหลายด้าน ดูช่องทางกระชับสัมพันธ์ไทยมากขึ้น อยากให้ไทยร่วม TPP ทำความเข้าใจ ม.112 เผยบางพวกมุ่งดิสเครดิตสถาบันฯ สหรัฐฯ ก็มี กม.ดูแลประมุขประเทศ ชี้จำเป็นต้องใช้ กม.มีความเป็นสากล เผยทูตมะกันรับเคารพสถาบันฯ ที่เป็นข่าวตัดแค่บางช่วง แถมห่วงสถานการณ์การเมืองไทย ถามถึงร่าง รธน. พร้อมส่งสัญญาณสองชาติไม่ทิ้งห่างกัน
วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายกลิน เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่ เดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่ง โดยมีการหารือร่วม 50 นาที
นายเกียรติ สิทธีอมร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า มีการหารือเรื่องต่างๆ เช่น เศรษฐกิจ การเมือง สังคม และท่าทีเกี่ยวกับการเลือกตั้งในอนาคต โดยสหรัฐฯ กำลังจะมีการเลือกตั้งในเร็วนี้ จึงอยากดูว่าในฐานะที่ไทยเป็นมิตรประเทศที่สำคัญในภูมิภาคนี้จะมีช่องทางใดที่จะกระชับความสัมพันธ์ที่ดีและมีความเข้าใจกันมากขึ้นในแง่ของความท้าทายในทุกๆ ด้าน โดยในแง่เศรษฐกิจได้มีการพูดถึงเรื่องความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เศรษฐกิจ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (TPP) ที่สหรัฐฯ เป็นผู้ก่อตั้ง และอยากเห็นว่ามีประเทศสมาชิกเพิ่มขึ้น และอยากเห็นประเทศไทยให้ความสนใจศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และจะมีแนวทางพัฒนาไปอย่างไร
นายเกียรติกล่าวว่า นอกจากนี้ทางพรรคยังได้พยายามทำความเข้าใจในเรื่องที่มีความอ่อนไหวสูง เช่น มาตรา 112 โดยได้อธิบายตามความเป็นจริงว่าประเทศไทยก็ยังมีคนบางกลุ่มบางพวกที่มีความพยายามใช้ทุกวิถีทางในการดิสเครดิตสถาบันฯ หลายครั้งหลายหนในช่วงที่ผ่านมา และชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นว่ามาตรา 112 ก็เหมือนกับมาตราที่มีอยู่ในหลายๆ ประเทศ ซึ่งในสหรัฐฯ เองก็มีกฎหมายที่ช่วยดูแลป้องกันประมุขของประเทศ ไม่ได้ผิดแตกต่างไปจากกันมาก แต่ก็พยายามอธิบายให้เขาเข้าใจว่าเรื่องนี้จริงๆ แล้วถ้าในสถานการณ์ปกติไม่มีบางกลุ่มบางพวกที่มีความพยายามสร้างความเสียหายให้แก่สถาบันฯ ปัญหานี้ก็คงจะน้อย ซึ่งปัจจุบันความจำเป็นที่จะต้องใช้กฎหมายนี้ก็ยังมีอยู่ และลักษณะกฎหมายก็มีความเป็นสากล โดยทางทูตสหรัฐฯ ก็บอกว่าความจริงเขามีความเคารพในสถาบันฯ มาก และความจริงที่ปรากฏเป็นข่าวไปนั้นเป็นเพียงแค่บางช่วงบางตอน แต่ถ้าฟังดีแล้วทั้งหมดที่พูดไปเป็นการแสดงออกถึงความเคารพสถาบันสูงสุดของไทย
นายเกียรติกล่าวว่า นอกจากนี้ทูตสหรัฐฯ ยังได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การเมืองไทยซึ่งเราได้อธิบายไปว่าช่วงนี้เป็นช่วงสถานการณ์ไม่ปกติสำหรับประเทศไทยอยู่แล้ว แต่เท่าที่สังเกตเห็นรัฐบาลก็พยายามเดินตามโรดแมปที่วางไว้ แต่ในอนาคตก็ต้องเฝ้าดูต่อไป ตอนนี้ยังไม่สามารถทำภารกิจของพรรคการเมืองได้ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยพรรคได้มีการร้องขอไปเช่นกัน อีกทั้งยังได้สอบถามถึงกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ โดยทางตนก็ได้เล่าว่าเรื่องทุกอย่างกำลังดำเนินการไป และกำลังรอดูอยู่ โดยในเดือนมกราคมน่าจะมีความจัดเจนว่าร่างแรกจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
“สิ่งแรกที่ท่านพูด คือ ประเทศไทยน่าอยู่ ประชาชนน่ารักมาก และถือเป็นโชคดีของคนไทยที่มีประเทศที่สวยงาม ประชาชนมีความโอบอ้อมอารี เราก็หารือกันว่าจะทำอย่างไรต่อความสัมพันธ์ที่ตอนนี้ดูจะถอยห่างไปนิดหนึ่ง โดยเราพยายามส่งสัญญาณไปว่าไม่ควรจะทิ้งห่างกัน ควรจะมีแนวทางอื่นๆ ร่วมกันได้ และทำให้ความสัมพันธ์มันดีขึ้น” นายเกียรติกล่าว