ไม่จบอีเวนต์ นศ.ประชาธิปไตยใหม่ ออกแถลงการณ์เรียกร้องปล่อยตัวแกนนำ-ปชช.ร่วมทริปส่องไฟหาทุจริตอุทยานราชภักดิ์ ซัดละเมิดสิทธิ ด้าน “จตุพร” เชื่อหากทหารเปิดเผยบัญชีรายรับ-รายจ่ายเรื่องจบ อัดโฆษกไก่อูเข้าข่ายโฆษกมักง่าย เหตุโบ้ยกลุ่มคนตรวจสอบ ทำสถาบันมัวหมองตรงไหน ย้อนเคสไม่ประณาม “พุทธะอิสระ” ส่วนทูตอังกฤษทำแบ๊วทวีตข้อความนึกว่าไทยคลายมาตรการจำกัดเสรีภาพแล้ว
วันนี้ (7 ธ.ค.) มีรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจได้จับกุมตัวแกนนำ ผู้จัดและผู้ร่วมกิจกรรม “นั่งรถไฟ ไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง” นั้น กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้ออกแถลลงการณ์ ระบุว่า ตามที่ในวันที่ 7 ธ.ค.กลุ่มประชาธิปไตยศึกษาได้จัดกิจกรรม “นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ส่องแสงหากลโกง” โดยนั่งรถไฟจากสถานีรถไฟธนบุรีไปยังอุทยานราชภักดิ์เพื่อเป็นตัวแทนภาคประชาชนร่วมตรวจสอบการทุจริตในการจัดสร้าง และแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการดังกล่าว
ปรากฏว่าในขณะที่ขบวนรถไฟที่จัดกิจกรรมได้เดินทางมาถึงสถานีรถไฟบ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้ตัดตู้รถไฟและปิดล้อมไว้เพื่อไม่ให้เดินทางต่อไปยังอุทยานราชภักดิ์ รวมถึงเข้าจับกุมประชาชนผู้จัดและผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดไว้และนำตัวไปยังสถานที่ที่ไม่มีการเปิดเผย ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดกิจกรรมดังกล่าวมีความเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งในหลายๆ ครั้งที่ระบอบเผด็จการทหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ได้ละเมิดสิทธิลิดรอนเสรีภาพของประชาชน กิจกรรมในครั้งนี้จึงไม่ได้ประสบความล้มเหลว
ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทหารปล่อยตัวประชาชนผู้จัดและผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนโดยปราศจากเงื่อนไขภายในวันนี้ หากไม่ยอมปฏิบัติตามเราจะดำเนินมาตรการ เพื่อกดดันให้ถึงที่สุด และเราจะไม่หยุดการตรวจสอบการทุจริตแต่เพียงเท่านี้ เราจะขอตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ต่อไป จนกว่าจะได้รู้ทุกข้อเท็จจริงที่เผด็จการทหารพยายามปิดบังจากสายตาประชาชน
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านรายการมองไกลผ่านยูทิวบ์ ถึงกรณีที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวหาแกนนำ นปช. และนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยศึกษา ที่เดินทางไปตรวจสอบการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า เป็นการทำให้สถานที่สร้างขึ้นด้วยศรัทธา และความจงรักภักดีของคนไทยทั้งชาติ ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องมัวหมองนั้น
“คิดว่าคนแอบอ้างเบื้องสูงมาทำการทุจริต ควรถูกประณามมากกว่าคนที่เรียกร้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง คนที่ทำให้สถาบันแปดเปื้อนมัวหมองไม่ใช่คนไทยที่เรียกร้องให้ตรวจสอบ เพราะไม่สบายใจกับการทุจริตอุทยานราชภักดิ์ แต่เป็นคนแอบอ้างเบื้องสูงไปทำทุจริต ซึ่งโฆษกรัฐบาลไม่เคยประณามพวกคนทุจริต กลับมากล่าวหาใส่ร้ายคนให้ตรวจสอบเป็นคนผิด สร้างความวุ่นวาย ทั้งๆ ไม่ได้ชุมนุมทางการเมืองใดๆ หน้าที่คุณคือการทำความจริงให้ปรากฏ ผู้บังคับบัญชาของคุณก็ยอมรับแล้ว กรณีคุณจะมักง่ายแบบเดิมๆ อีกไม่ได้ คุณเป็นกระบอกเสียงรัฐบาลที่มักง่ายมาก การมีอำนาจไม่ใช่จะไปใส่ร้ายคนอื่นได้ง่ายๆ ว่า ใครเดินทางไปราชภักดิ์เป็นคนคิดร้าย ทำให้สถานที่สำคัญแปดเปื้อน มัวหมอง คนทุจริตต่างหากที่ทำให้แปดเปื้อน”
นายจตุพรกล่าวว่า การสร้างอุทยานราชภักดิ์เป็นแนวคิดน่ายกย่องสรรเสริญ กองทัพบกของพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้าง พร้อมกับพระราชทานชื่อว่า อุทยานราชภักดิ์ แปลว่าอุทยานแห่งความจงรักภักดี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณเบื้องต้นในการจัดสร้าง แล้วกองทัพบกเปิดบัญชีบริจาค ขอเรี่ยไร สนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจและเอกชน โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นน่าจบลงอย่างง่ายดาย ด้วยการเปิดบัญชีบัญชีรายรับ-รายจ่ายของงบประมาณแผ่นดินโดยตรงและอ้อม รวมถึงเงินบริจาคอย่างตรงไปตรงมาให้สังคมได้รับรู้ชัดเจนเท่านั้น
ส่วนการสกัดไม่ให้เดินทางไปอุทยานราชภักดิ์นั้น รัฐบาลทำเช่นนี้กำลังปกป้องสถาบัน หรือปกป้องตัวเอง และ พล.ต.สรรเสริญควรถามด้วยว่า คนไทยต้องการให้เกิดการโกง ที่ราชภักดิ์หรือไม่ แต่กลับมาอ้างคนไทยวุ่นวาย และทำไมไม่ทำความจริงให้ปรากฏ การไปสกัดกั้นยิ่งทำให้เกิดเป็นปัญหาบานปลายลุกลามใหญ่โต โดยใส่ร้ายเป็นฝ่ายสร้างความปั่นป่วน แต่พุทธะอิสระที่ชุมนุมคนไปต่อต้านหน้าสถานทูตสหรัฐฯกลับไม่ถูกประณาม
มีรายงานจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ว่าเมื่อช่วงบ่ายหน่วยงานความมั่นคงได้แจ้งมายังการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อขอให้ยับยั้งการเดินทางของกลุ่มนักศึกษาและประชาชน ที่จะเดินทางไปทำกิจกรรม โดยการรถไฟฯ ได้ดำเนินการตัดโบกี้ที่ 3 มีผู้โดยสารประมาณ 50 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มที่จะเดินทางไปทำกิจกรรมที่อุทยานราชภักดิ์ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม การตัดโบกี้รถไฟไม่มีผลกระทบต่อผู้โดยสารในขบวนดังกล่าว เนื่องจากการถไฟฯได้มีการแยกผู้โดยสารทั่วไปออกมาโบกี้กลุ่มผู้เดินทางไปทำกิจกรรมแล้ว อีกทั้งยังไม่กระทบต่อการเดินรถไฟขบวนอื่น เพราะมีการตัดโบกี้ออกตรงสถานีบ้านโป่ง จ.ราชบุรี จากนั้น ร.ฟ.ท.จะมีการจัดหัวรถจักรลากจูงออกจากการกีดขวางเส้นทางต่อไป ซึ่งเหมือนกรณีทั่วไป หากมีขบวนใดมีโบกี้เสียหรือชำรุด ก็สามารถทำการตัดและมีหัวรถสำรองเข้ามาลากจูงไปซ่อมแซมต่อได้
มีรายงานว่า เมื่อช่วงบ่าย นายมาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @KentBKK โดยเป็นการรีทวิตเหตุการณ์ทหารจับกุมนักศึกษาที่เดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ พร้อมระบุว่า “I had hoped the fact 200 people allowed to demonstrate at the US Embassy, might be relaxation on freedom of assembly” ซึ่งแปลว่า “ผมเคยหวังไว้ว่า การที่รัฐบาลอนุญาตให้มีการชุมนุมหน้าสถานทูตสหรัฐฯ ถึง 200 คนนั้น อาจแสดงให้เห็นถึงการผ่อนคลายมาตรการจำกัดเสรีภาพในการชุมนุมเสียอีก”