โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายกรัฐมนตรีสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคุมเข้มด้านความปลอดภัยในเทศกาลลอยกระทงยันปีใหม่ พร้อมตั้งเป้าหมายอุบัติเหตุเป็นศูนย์ เตรียมชูวาระ Safety Thailand ผนึกกำลังทุกหน่วยยกระดับความปลอดภัยประเทศ
วันนี้ (22 พ.ย.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคง และส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม คุมเข้มมาตรการดูแลความปลอดภัยและป้องกันเหตุร้าย พร้อมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในช่วงเทศกาลลอยกระทง รวมทั้งกิจกรรมสำคัญที่จะเกิดขึ้นตลอดเดือนธันวาคมไปจนถึงเทศกาลปีใหม่
สำหรับเทศกาลลอยกระทงระหว่างวันที่ 24 - 26 พ.ย. นี้ รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายสูงสุดไว้ว่าอยากให้อุบัติเหตุจากการขนส่งสาธารณะเป็นศูนย์ และกำชับให้หน่วยงานที่ดูแลท่าเรือ โป๊ะ และจุดลอยกระทงตามสถานที่ต่าง ๆ ตรวจสอบอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมใช้งาน และจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือประชาชน เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่และรักษาประเพณีที่ดีงาม งดเล่นพลุ ประทัด และแต่งกายให้มิดชิด เพื่อป้องกันอันตรายจากผู้ไม่หวังดี ส่วนปัญหาการปล่อยโคมลอยในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอัคคีภัยและอุบัติเหตุต่ออากาศยานนั้น รัฐบาลได้จัดเจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานสำคัญ เพื่อขอความร่วมมือประชาชนงดปล่อยโคมลอย แต่หากมีความจำเป็นให้ปล่อยได้หลังเวลา 21.00 น. เป็นต้นไป
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นอกจากการเข้มงวดด้านความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในช่วงวันลอยกระทงแล้ว นายกรัฐมนตรียังต้องการให้ทุกหน่วยงานดำเนินการเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง และจริงจัง รวมทั้งให้พิจารณาจัดเตรียมแผนงานเพื่อเชื่อมโยงการดูแลความปลอดภัยทั้งระบบ ทำให้การทำงานมีความชัดเจน สามารถวางแผนและคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้าได้
“นายกฯ มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เป็นเจ้าภาพหลักบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานการดูแลความปลอดภัยภายในประเทศ สร้างความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติตนที่ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยให้แก่ประชาชน ทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ความปลอดภัยทางถนน ความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติและภัยจากการก่อการร้าย ภายใต้วาระ “ประเทศไทยปลอดภัย” หรือ Safety Thailand โดยมีเป้าหมายให้ไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ น่าท่องเที่ยว มีความปลอดภัย และพร้อมรับมือกับภัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว.