โฆษกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เผยแผนปฏิรูป สปท.เข้าสู่ช่วงที่ 2 ให้แต่ละ กมธ.ไปทำแผนมาเสนอใน 30 วัน เดตไลน์ 9 ธ.ค. เน้นเรื่องเร่งด่วน วิธี กำหนดเวลา แหล่งที่มางบประมาณ และหน่วยงานรับผิดชอบ พร้อมรับรอง กมธ.วิสามัญด้าน ป.ป.ช. มี “ปานเทพ” ประธาน ลุยปลุกจิตสำนึก ป้องกัน และปราบปรามโกง
วันนี้ (17 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน นายสุวัฒน์ จิราพันธุ์ และ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ โฆษกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ร่วมกันแถลงถึงแผนการปฏิรูปของคณะกรรมาธิการ สปท. ว่าขณะนี้ขั้นตอนการทำงานของ สปท.เข้าสู่โรดแมป เลข 1 ตัวที่ 2 ตาม 1+1+18 โดยหลังจากนี้คณะ กมธ.แต่ละด้านต้องไปดำเนินการทำแผนปฏิรูปเพื่อมาเสนอต่อ สปท.ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.ถึงวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ซึ่ง ร.อ.ทินพันธุ์ นาคาตะ ประธานสปท. ได้กล่าวถึงแนวทางการทำแผนการปฏิรูป คือ 1. แผนการปฏิรูปจะต้องเป็นเรื่องที่ กมธ.เห็นว่าเป็นเรื่องสมควรปฏิรูปโดยคำนึงถึงความสำคัญเร่งด่วนและความสัมฤทธิ์ ซึ่งกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 มาตรา 39/2 รวมทั้งจะต้องระบุปัญหาต่างๆ ที่จะต้องมีการปฏิรูป 2. วิธีการปฏิรูป กมธ.จะต้องวิเคราะห์จัดทำแนวทางเกี่ยวกับเรื่องการปฏิรูปและแนวทางการแก้ไขปัญหาตามข้อหนึ่ง 3. กำหนดเวลาการปฏิรูป จะต้องกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจนไว้เป็น 3 ระยะ ตามหนังสือสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นร.0404/13183 เรื่องดำรินายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการอภิปรายทั่วไปเพื่อเสนอวิธีการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน 4. แหล่งที่มาของงบประมาณ กรณีที่จะต้องใช้เงินงบประมาณในการปฏิรูป กมธ.จะต้องเสนอแหล่งที่มาของเงินงบประมาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ และ 5. หน่วยงานที่รับผิดชอบ กมธ.จะต้องเสนอในรายงานเรื่องที่จะปฏิรูปนั้นๆ ว่าอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานใด
“ต้องเข้าใจให้ตรงกันวันแนวทางการทำแผนการปฏิรูปเป็นไปตามหนังสือจากสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งหมายความว่า กมธ.ทั้ง 11+1 ด้าน ต้องมีแผนงานที่เป็นวาระเร่งด่วนสำหรับการปฏิรูปที่ต้องทำในรัฐบาลชุดนี้ รวมทั้งต้องทำแผนงานในระยะยาวเพื่อมอบให้กับรัฐบาลชุดต่อไปมารับช่วงต่อ” นายคำนูณกล่าว
ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้รับรองรายงานของคณะกรรมการพิจารณาและกลั่นกรองการดำรงตำแหน่ง กมธ.วิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ จำนวน 21 คน โดยมี นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ เป็นประธาน และรายชื่อ กมธ. เช่น นายกษิต ภิรมย์ พล.อ.จิระ โกมุทพงศ์ นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ นายธวัชชัย ไทยเขียว นายอนุสิษฐ คุณากร นายประมนต์ สุธีวงศ์ เป็นต้น โดยจะเน้นการขับเคลื่อนใน 3 เรื่อง คือ 1. การปลุกจิตสำนึก 2. การป้องกัน และ 3. การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน