xs
xsm
sm
md
lg

กกต.คาดเพิ่มกรรมการเป็น 7 คนหวังให้เกิดความรอบคอบ ชูบัตรโหวตใบเดียวประหยัดงบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรรมการการเลือกตั้งถกผู้บริหาร กศน. และผู้บริหารสำนักเลือกตั้ง หวังจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยให้ครบ 7,424 แห่งเสร็จก่อนทำประชามติ ชี้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ จ่อเพิ่ม กกต.เป็น 7 คน เพื่อให้เกิดความรอบคอบ หลังเตรียมเพิ่มอำนาจให้มากขึ้น รับให้พรรคเสนอชื่อนายกฯ เป็นเรื่องใหม่มาก ขอรอการพิจารณาก่อน เชื่อบัตรโหวตใบเดียวไม่กระทบงาน ไม่สับสน ชูประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่เกิดซื้อเสียงแบบพ่วง

วันนี้ (16 พ.ย.) นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการมีส่วนร่วม เป็นประธานการประชุมความร่วมมือระหว่างผู้บริหารสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หรือ กศน. และผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยกล่าวว่า กกต.ได้ดำเนินการขับเคลื่อนกิจกรรมสร้างพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ตามโรดแมปการมีส่วนร่วม 3 ระยะ ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยและการเลือกตั้งตำบล หรือ ศส.ปชต. ครบอำเภอละ 1 แห่ง จำนวน 928 ศูนย์ โดยได้ความร่วมมือจาก กศน. กกต.จังหวัด และกรุงเทพมหานคร โดยถือเป็นการเสริมสร้างและพัฒนาความร่วมมือในการจัดตั้ง ศส. ปชต. ให้ครบทุกตำบล รวมถึงเตรียมความพร้อมเพื่อเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญและการออกเสียงประชามติ ตามแนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การสร้างพลเมืองดี วิถีประชาธิปไตย

ทั้งนี้ นายประวิชยังย้ำว่า กกต.ดำเนินการ ตั้ง ศส.ปชต. ตั้งแต่ปี 2557 ที่ตั้งศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย จังหวัดละ 1 แห่ง มาปี 2558 เพิ่มเป็นอำเภอละแห่ง และในปี 2559 จะขยายให้ได้ 7,424 แห่ง จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนมีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่คาดว่ามีทำในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมเพื่อประชาชน จะได้ใช้สิทธิ์อย่างมีคุณภาพ เพื่อตัดสินใจว่าจะเอารัฐธรรมนูญนี้หรือไม่ พร้อมย้ำ กกต.พร้อมทำประชามติ

นายประวิชยังกล่าวถึงแนวคิดที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพิ่มสัดส่วน กกต.จาก 5 คน เป็น 7 คนว่า เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นความเข้าใจว่า กกต.แบ่งงานกันทำเป็นคนละด้าน แต่ในความเป็นจริงแล้ว กกต.ทั้ง 5 คนต่างทำงานร่วมกันในการพิจารณา เพียงแต่แบ่งให้แต่ละคนช่วยกำกับงานในแต่ละด้านเท่านั้น ทั้งนี้ การที่จะเพิ่ม กกต.อีก 2 คน ทาง กรธ.คงเห็นว่าจะมีการเพิ่มอำนาจให้กับ กกต.มากขึ้น อย่างเช่น กรณีการให้ใบเหลือง เพื่อความรอบคอบ ในการทำงานในลักษณะองค์คณะจึงจะมีการกำหนดให้ กกต.ที่เพิ่มมามาจากตัวแทนคณะผู้พิพากษา

ส่วนแนวคิดให้พรรคการเมืองที่จะลงเลือกตั้งเสนอรายชื่อผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี 5 รายชื่อ เพื่อเป็นการป้องกันนายกฯ คนนอกนั้น นายประวิชกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังถือว่าไม่ใช่ที่สิ้นสุด ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้ถือเป็นของใหม่มากและต้องรอการพิจารณา ขณะนี้มีบุคคลหลายฝ่ายได้แสดงความคิดเห็น ในส่วน กกต.เองก็คงต้องรอฟัง โดยที่ผ่านมา กกต.ในฐานะผู้ปฏิบัติจะเสนอความเห็นที่เกี่ยวข้องกับระบบการเลือกตั้งมากกว่าว่าจะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตโปร่งใส

สำหรับบัตรเลือกตั้งที่จะให้มีใบเดียว แต่เลือกทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อนั้น นายประวิชกล่าวว่า เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการทำงาน กกต. และไม่น่าจะทำให้เกิดความยุ่งยากหรือสับสน อีกทั้งจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องบัตรเลือกตั้ง และจำนวนบุคลากร รวมทั้งยังเห็นว่าไม่น่าจะทำให้เกิดปัญหาการซื้อเสียงแบบพ่วง แต่ทั้งนี้ต้องอธิบายให้ประชาชนได้รับทราบ



กำลังโหลดความคิดเห็น