เกาะกระแส
00 ตอนแรกก็ยังนึกว่าข่าวการ"ปีนเกลียว"ระหว่างพี่น้อง "บูรพาพยัคฆ์"พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม อดีตผบ.ทบ.กับ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ขยายความกันจนเกินเหตุ แต่ทำไปทำมามันไม่ธรรมดาเสียแล้วพี่น้องเอ๋ย หลังจากได้ยิน "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ยืนยันว่าไม่มีอะไร"แค่เรื่องเข้าใจผิด"คุยกันรู้เรื่องแล้ว ตอนแรกก็อยากให้เป็นแบบนั้น เชื่อแบบนั้น แต่เรื่องแบบนี้มักจะออกมาในทางตรงข้ามเสมอ ยิ่งยืนยันว่าไม่ขัดแย้งก็ยิ่งขัดแย้ง ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากคำสั่งย้ายนายทหารระดับ"คุมกำลัง"โดยเฉพาะในโผที่เป็นระดับคนใกล้ชิดมือไม้แล้วต้องบอกว่า ใช่เลย และยิ่งมีเหตุการณ์สั่งรื้อปรับภูมิทัศน์ภายใน บก.ทบ.ที่พล.อ.อุดมเดช เคยสร้างเอาไว้ มันก็มีความหมายบ่งชี้ค่อนข้างชัด
00 แน่นอนว่าย่อมเป็นอำนาจตามคำสั่งของ ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน คือ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ไม่ว่าจะเป็นธรรมเนียมที่เมื่อเข้ามาใหม่ก็ต้อง"กระชับอำนาจ"ของตัวเองให้มั่นคง เพื่อประกันความชัวร์ต้องมีมือไม้ไว้ใช้งานข้างกาย ซึ่งที่ผ่านมาก็มักมีการโยกย้ายนายทหารระดับ"พันเอกพิเศษ"ลงมา ซึ่งก็คือเป็นระดับผูังคับการ ในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผบ.ทบ.ก็ทำแบบนี้ แต่ในกรณีของ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร มี่มีรายงานว่า มีการเซ็นโยกย้ายคนใกล้ชิดก่อนเกษียณฯเอาไว้ 4-5 ราย แต่กลายเป็นว่าโดนคำสั่งยับยั้งเอาไว้ พร้อมกับมีการโยกย้ายล็อตใหญ่ในโผของตัวเองตามมา งานนี้หากมองเป็นการ"หักหน้า"หรือการโยกย้ายตามอำนาจที่ปฏิบัติกันมาก็มองแบบนั้นได้
00 แต่สำหรับทั้งคู่หากพิจารณาจากแบ็กกราวด์ก็ต้องบอกว่า ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.14 เติบโตมาในเส้นทางสายตะวันออก เป็น"บูรพาพยัคฆ์"เหมือนกันเพียงแต่แตกไลน์กันในรายละเอียดสำหรับเส้นทางเติบโต เพราะเมื่อพิจารณาจากเส้นทางก็ต้องบอกว่า"ตามติดหายใจรดต้นคอ"กันมาตลอด แต่ก็ถือว่า"แบ็กดี"กันทั้งคู่ ฝ่ายแรกดูแล้วน่าจะเหลื่อมไปทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เดินตามกันมา ขณะที่อีกฝ่ายได้น้ำเลี้ยงแรงหนุนจาก พี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จนกระทั่งว่ากันว่าต้องลุ้นจนนาทีสุดท้ายช่วงชิงดำกับ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา แม้จะเข้าวิน แต่เพราะเรื่องนี้เหรือเปล่าที่ทำให้"คาใจ"กันไม่จบง่ายๆ
00 คำพูดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่บอกว่า "หมูใจเย็นๆ"ย่อมส่งสัญญาณไปถึง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ให้ผ่อนลงมาบ้าง เห็นภาพชัดเจนว่าทั้งคู่ขัดแย้งกันจริง และเมื่อพิจารณาจากปูมหลังของทั้งคู่ ยังเชื่อว่า "จูนกันลำบาก" เพียงแต่ว่าคงไม่มีผลต่อการบังคับบัญชา เนื่องจากมีพี่ใหญ่พี่รองคอยตัดเกม เพียงแต่ว่า "รอยแตก"แบบนี้สำหรับ คสช.มันอาจจะไม่สวยงาม เพราะอีกด้านหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.เรียกร้องความสามัคคีของคนในชาติ แต่กลายเป็นว่าเนื้อในกลับ"ขึ้นสนิม"มันหมายความว่าอย่างไร !!
00 คราวนี้ดูตามรูปการณ์แล้วโครงการซื้อ"เรือดำน้ำ"คงได้เกิดแน่ หลังจากมีการประสานเสียงกันทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหมได้ออกโรงหนุนเต็มที่ อ้างว่าเพื่อรักษาดุลอำนาจในภูมิภาค มีความจำเป็นและย้ำว่าเป็นการซื้อแบบรัฐต่อรัฐไม่มีค่านายหน้า ไม่มีโกง พูดแบบนี้ก็ต้องเป็น"เรือดำน้ำจากจีน"แหงๆ เพราะตามรายงานจากสื่อระบุว่าฝ่ายไทยมีการ"ยื่นข้อเสนอซื้อ"ไปแล้วตั้งแต่ต้นปี !!
00 ทยอยรายงานตัว สำหรับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) ขณะที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่มี มีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน ได้เริ่มประชุมนัดแรก มีการเลือกรองประธานและโฆษกกันไปเรียบร้อยแล้ว น่าจับตาก็คือในร่างใหม่จะ คปป.โผล่เข้ามาในแบบไหนต่างหาก แต่รับรองว่า"ต้องมี" เพราะพิจารณาจากอาการแล้วนี่คือความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเป็นคำตอบว่าทำไมต้องเป็นมีชัย ฤชุพันธุ์ !!