โฆษกรัฐบาลเผยแม้ฝนตกหนักหลายพื้นที่ แต่ปริมาณน้ำในเขื่อนยังมีน้อย วอนประชาชนร่วมกันประหยัดน้ำ รัฐเตรียมออกแพกเกจให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนใน 2 -3 สัปดาห์
วันนี้ (19 ก.ย.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้หลายพื้นที่ของประเทศจะได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชัน “หว่ามก๋อ” ทำให้เกิดภาวะฝนตกหนักต่อเนื่อง หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขังซึ่งรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ายกฯ ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานรัฐทั้งพลเรือน ทหาร ตำรวจ และอาชีวศึกษาเร่งบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีฝนที่ตกหนักดังกล่าวแต่ส่วนใหญ่ยังตกนอกพื้นที่รองรับน้ำส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนยังมีไม่มากนัก โดยเฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่มีปริมาณน้ำไม่ถึง 50% ของความจุเขื่อน เช่น เขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำ 33% เขื่อนสิริกิติ์ 44% เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 14% และเขื่อนแควน้อย 29% ของความจุ ทำให้ทุกฝ่ายต้องตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาน้ำ ทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง โดยเฉพาะน้ำแล้ง จึงอยากวิงวอนให้ประชาชนร่วมกันประหยัดการใช้น้ำ รวมถึงพี่น้องเกษตรกรบางพื้นที่ที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืชในอนาคตตามคำแนะนำของรัฐบาล
ทั้งนี้ รัฐบาลเข้าใจและเห็นใจพี่น้องเกษตรกรที่ประสบความเดือดร้อน จึงได้เร่งรัดจัดเตรียมมาตรการให้ความช่วยเหลือ ตลอดจนจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสมสำหรับพี่น้องเกษตรกรว่าสิ่งใดควรทำและไม่ควรทำในช่วงเวลานี้ซึ่งไม่ได้เป็นการห้าม แต่เป็นการขอความร่วมมือและให้ความช่วยเหลือ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องเกษตรกรเอง โดยจะออกมาตรการเป็นแพกเกจครอบคลุมทั้งมาตราการลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น สัดส่วนของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืช การตลาดสำหรับรองรับผลผลิตทางการเกษตรการช่วยเหลือเรื่องการจ้างงานและอีกหลายเรื่องหลายมาตรการภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ เพื่อไม่พี่น้องเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน
สำหรับในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมนั้น นายกฯ มีความเป็นห่วงประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่และครบทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รวมถึงการฟื้นฟู เยียวยา เมื่อน้ำลดแล้ว และขอยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนอย่างเต็มความสามารถ