xs
xsm
sm
md
lg

มท.1 ประกาศ “พัทยา” เป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วม-ส่ง จนท.ลงช่วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
อิทธิพลพายุหว่ามก๋อ “บิ๊กป๊อก” ประกาศให้ “เมืองพัทยา” เป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว สั่งเจ้าหน้าที่-ปภ.เข้าพื้นที่เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยแก้ไขปัญหาน้ำท่วม อธิบดี ปภ.ระบุ 5 จังหวัดคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้วยกเว้นชลบุรี ส่วนอีก 14 จังหวัดเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม อันตรายจากปริมาณฝนตกสะสม

วันนี้ (17 ก.ย.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงข่าวประกาศให้เมืองพัทยาเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ และสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ทันท่วงที พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยลงพื้นที่แล้ว

“มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ลงพื้นที่ไปดูแลแล้ว เชื่อว่าน่าจะผ่านวิกฤตไปได้ สถานการณ์น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในเวลาไม่นาน ส่วนการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติในเขตเมืองพัทยานั้น ก็เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ และสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้”

ช่วงเช้า พล.อ.อนุพงษ์ระบุว่า จากการติดตามสภาพอากาศพบว่าพายุหว่ามก๋อได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัย

โดยตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2558 ถึงปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัย 5 จังหวัด 8 อำเภอ 14 ตำบล ซึ่งนายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนัก จึงได้สั่งกำชับให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยเร่งปฏิบัติการแก้ไขปัญหา โดยจัดเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมเครื่องจักรกล ด้านสาธารณภัยปฏิบัติการเผชิญเหตุ ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในการเดินทางและขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นผิวการจราจร ส่วนจังหวัดที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ให้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง ตลอดจนประสานซ่อมแซมสาธารณูปโภคและสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว ที่สำคัญให้ชี้แจงสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการเตรียมพร้อมรับมือและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพื่อสร้างความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ.กล่าวว่า ขณะนี้พายุหว่ามก๋อ ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อ ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย 5 จังหวัด ได้แก่ ตาก จันทบุรี สุรินทร์ ศรีสะเกษ และชลบุรี รวม 8 อำเภอ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โดยรวมขณะนี้ทั้ง 5 จังหวัด คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว มีเพียง จ.ชลบุรี บางพื้นที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ระหว่างการระบายน้ำ ทั้งนี้ ปภ.จังหวัดในพื้นที่ประสบภัยได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว อีกทั้งจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและสำรวจความเสียหาย ส่วนผู้ประสบภัยสามารถแจ้งเหตุและติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เตือน 14 จังหวัด จันทบุรี ตราด ระยอง ชลบุรี ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล และสงขลา เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม และระวังอันตรายจากปริมาณฝนตกสะสม

อย่างไรก็ตาม จากพายุหมุนเขตร้อนบริเวณจีนใต้ระบุหย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังจากพายุดีเปรสชัน “หว่ามก๋อ” ที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ภาคตะวันออก ระยอง ตราด จันทบุรี ประชาชนที่อาศัยใกล้ลำน้ำ และที่ราบเชิงเขา เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ส่วนจังหวัดชลบุรียังมีฝนสะสมส่งผลให้น้ำท่วมหลายพื้นที่ ประกอบกับมรุสุมลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ ทำให้มีความชื่นของทะเลเข้ามาสมทบจะทำให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบหนัก มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในบริเวณกว้าง และเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ที่ราบลุ่ม


กำลังโหลดความคิดเห็น