นายกรัฐมนตรียืนยันสาเหตุการวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ไม่เกี่ยวข้องกับการส่งชาวอุยกูร์ให้แก่รัฐบาลจีน ชี้เป็นไปได้ทั้งอาชญากรรมธรรมดา ค้ามนุษย์ธรรมดา แต่ไม่ได้ตัดทิ้ง รับทราบ “จักรทิพย์” บินไปมาเลเซีย
วันนี้ (15 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อสรุปสาเหตุการวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ที่มีแนวโน้มอาจจะเกี่ยวข้องกับการส่งชาวอุยกูร์ให้แก่รัฐบาลจีนว่า ไม่เกี่ยว ชั้นต้นนี้ยังไม่เกี่ยว คิดว่ายังไม่เกี่ยว เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นมันจะต้องมีคนออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่เขาก็ไม่ได้ตัดทิ้งประเด็นดังกล่าว มันก็เป็นได้ทั้ง 3 เรื่อง ทั้งอาชญากรรมธรรมดา ค้ามนุษย์ธรรมดา และถ้าเป็นกรณีนั้นต้องมาพิจารณากันว่าจะทำอย่างไร เพราะว่ามันเป็นการบังคับรัฐแบบนี้ไม่ได้ ท่านยอมหรือมีใครเข้ามาในประเทศไทยแล้วใครจะเอาอะไรก็เอาไป ไม่มีกติกาเลยหรืออย่างไร เราให้ตามการพิสูจน์สัญชาติเป็นของใครก็ให้ไป แต่เรื่องใช่ไม่ใช่ผิดไม่ผิดไม่ใช่เรื่องของเรา เราจะพิจาณาแทนได้หรือ ถ้าทำอย่างนี้มันคงไม่เกิดศูนย์อพยพพักพิง 9 แห่งขึ้น เพราะเราเป็นม้าอารี แล้ววันนี้กี่ประเทศที่รับผู้อพยพไม่ได้ วันละ 4 หมื่นคนไหวไหม ถ้าเราทำอย่างนี้ต่อไปใครมาบ้านเราแล้วส่งไปที่ที่อยากจะไปวันนั้นบ้านเรากำลังเป็นชุมทางการค้ามนุษย์ คิดอย่างตนบ้าง จะผิดจะถูกไปสอบที่ต้นทางมาสอบตนตำหนิตนอย่างเดียวมันไม่ถูก
เมื่อถามว่า นายกฯ ได้รับรายงานกรณีที่คณะทำงานของ พล.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ว่าที่ ผบ.ตร.จะเดินทางไปจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับคดีวางระเบิดที่มาเลเซียหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ทราบแล้ว โดยจะไปดูข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐ ประเทศเพื่อนบ้าน ทุกคนเป็นเพื่อนเราหมด รอบบ้านเราถ้าไม่เป็นเพื่อนกันอยู่ไม่ได้ มันไม่แข็งแรงเพียงพอ มันต้องไปด้วยกันในอาเซียน เติบโตแข็งแกร่งไปด้วยกันอาเซียน 600 กว่าล้านคน