xs
xsm
sm
md
lg

สนช.จี้ สธ.ขึ้นบัญชีดำคลินิกอุ้มบุญฉาว ฝากเข้มรักร่วมเพศเข้ามาอุ้มบุญ ชี้ผิด กม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประชุม สนช.พิจารณากระทู้เกี่ยวกับการอุ้มบุญ สนช. ถามคืบหน้า สธ.คดีคลินิกฉาวรับจ้างอุ้มบุญ จี้ขึ้นบัญชีดำ ปูดมีการเปลี่ยนชื่อ แฉ! ปีนี้มีชาวอิสราเอลรักร่วมเพศแห่เข้ามาอุ้มบุญ ทั้งที่กฎหมายห้าม แนะให้ไปเนปาลแทน

วันนี้ (3 ก.ย.) ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธาน เพื่อพิจารณากระทู้ถามเรื่องความรับผิดของบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและสถานพยาบาล ที่ดำเนินการก่อน พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 โดยนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สนช. ถาม นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ว่ามีคนต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการการอุ้มบุญในประเทศไทยจำนวนมาก ที่ผ่านมาเป็นข่าวคึกโครมอยู่ 2 กรณี คือ กรณีที่ชาวออสเตรเลียจ้างแม่ที่เป็นคนไทยอุ้มบุญจนได้ลูกแผดที่คนหนึ่งเป็นดาวซินโดม แต่อีกคนปกติ และอีกกรณี คือ ชาวญี่ปุ่นจ้างแม่คนไทยอุ้มบุญเด็กทารกจำนวน 9 คน โดยทั้งสองกรณีได้ใช้คลินิกที่เปิดให้บริการทางด้านนี้และมีแพทย์ผู้ดำเนินการเป็นคนเดียวกัน เมื่อมีข่าวออกไปก็มีการเข้าจับกุมดำเนินคดี แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการกับแพทย์ที่กระทำความผิดนี้อย่างไร และอยากให้กระทรวงสาธารณสุขประกาศขึ้นบัญชีดำคลินิกดังกล่าว เพราะทราบว่าคลินิกนี้ได้มีการเปลี่ยนชื่อแล้ว

นายวัลลภกล่าวอีกว่า นอกจากนี้มีข่าวว่าในช่วงเดือน ม.ค.ถึง พ.ย. 57 มีชาวอิสราเอลจำนวน 100 ครอบครัวเข้ามาอุ้มบุญในประเทศไทยมีเด็กที่เกิดจำนวนถึง 125 คน ที่น่าตกใจคือทั้ง 100 ครอบครัวเป็นรักร่วมเพศ ทั้งที่กฎหมายอุ้มบุญได้มีผลบังคับใช้แล้ว และห้ามบุคคลเพศเดียวกันอุ้มบุญ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จึงขอฝากว่าประเทศไทยมีกฎหมายห้ามคนเพศเดียวกันอุ้มบุญ หากคู่รักร่วมเพศชาวต่างชาติที่อยากอุ้มบุญให้ไปประเทศเนปาล เพราะที่ประเทศเนปาลไม่มีกฎหมายห้ามเพศเดียวกันอุ้มบุญ

ด้าน นพ.สกลกล่าวว่า น้อมรับคำแนะนำและข้อเสนอแนะไปพิจารณา โดยในส่วนของแพทย์ที่กระทำผิดกฎหมายขณะนี้อยู่ในระหว่างพิจารณาของแพทย์สภาในการเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ ทางกระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถไปก้าวก่ายได้ ทั้งนี้ กฎหมายอุ้มบุญที่ประกาศบังคับใช้นั้นถือว่าครอบคลุมพอสมควร และคงจะมีการบังคับใช้กฎหมายต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น