คสช.เผยสาวไทยติดต่อ ตร.แล้ว วอนเจ้าของห้องเช่าพบคนต้องสงสัยโทรแจ้ง ขอสื่ออย่ามโน

โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แถลงเคลื่อนย้าย 14 ศพต่างชาติเสียชีวิตเหตุระเบิดราชประสงค์กลับสู่มาตุภูมิแล้ว เผยสาวไทยมุสลิมอยู่ต่างแดน แต่ติดต่อขอให้ปากคำตำรวจ ยันต่างชาติที่จับได้ให้การเป็นประโยชน์ วอนผู้ประกอบการเกสต์เฮาส์,ห้องเช่า โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่หากพบคนต้องสงสัย วอนสื่อมวลชนงดนำเสนอข่าวเชิงด่วนสรุป ชี้นำชาวบ้านจนส่งผลต่อภาพลักษณ์ชาติ


วันนี้ (1 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้แถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รายงานให้ทราบว่าจำนวนการจองเที่ยวบินจากต่างประเทศมายังประเทศไทยอยู่ในระดับปกติ สำหรับการดำเนินการต่อผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติทั้ง 14 รายนั้น ได้ให้ความช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายศพกลับประเทศและประกอบพิธีทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว

สำหรับความคืบหน้าในการสอบสวนคดีตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยแล้วจำนวน 4 ราย ได้แก่ 1. ชายที่สวมเสื้อสีเหลืองซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ราชประสงค์ 2. ชายที่สวมเสื้อฟ้าซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ท่าเรือสาทร 3. ชายตามภาพสเกตช์ซึ่งมีผู้พบเห็นว่าเป็นผู้พักอาศัยในห้องเช่าย่านมีนบุรี ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบระเบิด และ 4. น.ส.วรรณา สวนสัน ผู้ทำสัญญาเปิดเช่าห้องพักในพื้นที่มีนบุรีจำนวนหลายห้อง ที่มีชายชาวต่างชาติตามภาพสเกตช์เข้ามาพักอาศัย อย่างไรก็ตามในส่วนของ น.ส.วรรณา ที่ปัจจุบันพำนักอยู่ในต่างประเทศ ได้ติดต่อขอเข้าให้ปากคำแก่ทางเจ้าหน้าที่แล้ว

ล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการซักถามผู้ต้องหาที่ควบคุมตัวได้จากพื้นที่หนองจอกเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนคดีเป็นอย่างมากจนนำไปสู่การขยายผลติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทั้งนี้ จากผลการสอบพยานต่างๆ โดยเฉพาะพยานบุคคลและผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้นซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ชี้แจงข้อมูลที่มีความชัดเจนแล้วเท่านั้นให้ประชาชนและสังคมได้รับทราบเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และเพื่อให้การขยายผลในการสืบสวนคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการอาคารที่พัก เกสต์เฮาส์ และห้องเช่าต่างๆ หากพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยเข้ามาพักอาศัยขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจที่ใกล้ที่สุด หรือติดต่อมายังเบอร์โทรศัพท์สายด่วน 1515 ได้ทันที

นอกจากนี้ยังมีความจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนงให้งดการนำเสนอข่าวในเชิงด่วนสรุปหรือคาดเดาไปเองโดยปราศจากข้อมูลที่ได้รับการยืนยันจากทางราชการ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวถือเป็นการชี้นำต่อการรับรู้ของประชาชนจนอาจทำให้สังคมเกิดความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศได้