“สปช.เอนก” แย้ง “ธีรยุทธ” คปป.ไม่ปูทางโปลิตบูโร ยกสังคมไทยมีต้นเป็นปชต.แข็งแกร่ง ไม่เป็นเผด็จการ ย้อนความขัดแย้งที่ผ่านมาจากรัฐบาล-ปชช.จึงให้อำนาจ ปชช.เพิ่มจะได้ไม่ลงสู่ถนนเช่นเดิม ขอนักการเมืองปฏิรูปไม่งั้นเผชิญ คปป.ทำยุ่งเพิ่มขึ้น เชื่อพอรับได้ ชี้ รธน.ใหม่ไม่ให้ยึดอำนาจเลือกตั้งไปใช้ทั้งหมด
วันนี้ (28 ส.ค.) นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ กรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่นายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการ ระบุว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) จะเป็นการปูทางไปสู่โปลิตบูโรว่า ไม่ใช่การปูทางไปสู่โปลิตบูโร เข้าใจว่ากรณีที่พูดด้วยความเป็นห่วงเพื่อให้ระมัดระวังก็ดี ไม่เป็นอย่างนั้นง่ายๆ และสังคมไทยมีต้นเป็นประชาธิปไตย รากแข็งแกร่งและอยู่ลึกมาก สู้กันมากว่า 40 ปีแล้ว ใครที่จะยอมให้กลายเป็นเผด็จการง่ายๆ คงไม่มี และการปรองดองไม่ใช่เฉพาะกฎหมาย ไม่ใช่เป็นเพราะรัฐธรรมนูญถือว่าถูกต้อง แต่รัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เอื้อเฟื้อให้เกิดการปรองดองก็เขียนได้ เราก็อยู่บนวิสัยที่จะเขียนก็ควรจะเขียน ส่วนปรองดองไม่ได้อยู่ใน คปป. ยังอยู่ที่เราเพิ่มอำนาจของประชาชนให้มีอำนาจโดยตรง ประชาชนตรวจสอบคอร์รัปชันและการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ โดยรัฐต้องเปิดข้อมูลให้แก่ประชาชน ตรงนี้จะลดความขัดแย้งระหว่างการเมืองภาคประชาชนและการเมืองภาคผู้แทน
นายเอนกกล่าวว่า ความขัดแย้งที่ผ่านมาทีแรกเป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและประชาชนทั้งนั้น ทั้งสีเหลืองกับรัฐบาลที่บอกว่ารัฐบาลคอร์รัปชัน สีแดงกับรัฐบาลที่บอกว่ารัฐบาลเป็นอำมาตย์ เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไรที่จะทำให้ภาคประชาชนและภาครัฐขัดแย้งน้อยลง คือการเอาบทบาท หน้าที่และอำนาจให้ภาคประชาชนมากขึ้น เชื่อว่าตรงนี้จะไม่ทำให้เขาลงไปสู่ท้องถนนเหมือนเมื่อก่อน ส่วนการปฏิรูปและปรองดองขอให้นักการเมืองอนุโลม หรืออนุมัติตาม หากไม่ทำต้องเผชิญกับ คปป. ไม่ใช่ว่าเขาจะพิชิต คปป.ไม่ได้ แต่มันยุ่งเพิ่มขึ้น เชื่อว่าเขาไม่อยากมาเหนื่อยเพื่อสู้กับ คปป.
“ที่สำคัญ คือ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ใช่เป็นประชาธิปไตยแบบผ่านผู้แทนอย่างเดียว แต่เป็นประชาธิปไตยแบบโดยตรงมากขึ้น คือ หากคุณยึดอำนาจจากการเลือกตั้งได้ ไม่ใช่ได้ไปทั้งหมด เพราะคุณต้องแบ่งอำนาจให้ประชาชนโดยตรง แบ่งให้ คปป.อย่างน้อยอีก 4 ปี และหลังจากนั้นคุณต้องแบ่งกับประชาชนฝ่ายเดียวมากขึ้น เพราะฝ่ายต่างๆ จะหมดไปตามลำดับ ส่วนความเคลื่อนไหวของนักการเมืองต่อการต้านร่างรัฐธรรมนูญโดยเนื้อแท้แล้วเขาพอรับได้” นายเอนกกล่าว