รมว.ยุติธรรม เชื่อปรับ ครม. นายกฯ ฟังข้อมูลหลายด้าน เข้าใจปรับไปแย่กว่าเดิมจะเสียหาย ย้ำต้องให้หน้าใหม่ทำงาน ไม่เข้าใจ “หม่อมอุ๋ย” ฟูมฟายแบ่งแยกแล้วปกครอง บอกไม่มีใครพอใจทุกเรื่อง ถ้าเป็นมติก็ต้องยอมรับ อีกทั้งต้องเห็นใจเรื่องเศรษฐกิจ เปรยไม่เคยถามทำไมนายกฯ ให้อยู่ต่อ แค่บอกตอนก่อนจะเป็นรัฐมนตรีว่า “พี่มั่นใจว่าน้องทำได้”
วันนี้ (21 ส.ค.) ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 16.10 น. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรีได้มีการพิจารณาแล้ว ไม่มีใครที่ปรับเปลี่ยนแล้วไม่คาดว่าจะดีขึ้น เรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกฯ ตนเชื่อว่า ท่านได้กลั่นกรอง และมีข้อมูลที่ฟังจากหลายด้าน และท้ายที่สุด ท่านก็รู้ ถ้าปรับไปแล้วแย่กว่าเดิม ก็จะเสียหาย ซึ่งท่านก็เข้าใจเรื่องนี้
“วันนี้ต้องให้เวลารัฐมนตรีใหม่ทำงาน คนที่จะมา ท่านนายกฯ คงคุยแล้ว แต่คนที่จะไปผมก็ไม่ทราบว่าท่านได้บอกหรือเปล่า ผมไม่รู้ แต่ผมก็ได้บอกท่านนายกฯ ไว้ ตั้งแต่ตอนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกว่าผมไม่มีปัญหา เพราะนายกฯ เป็นผู้ดูแลบ้านเมือง เราต้องให้สิทธิท่าน พวกเราต้องเข้าใจท่านดูแลรัฐบาล ท่านต้องเป็นผู้รับผิดชอบ บริหารบ้านเมืองในยุคที่ท่านเป็นนายกฯ ประวัติศาสตร์ก็จะจารึกไว้ ต้องให้ท่านมีเสรีในการปรับ ในการคิด ไม่มีใครเป็นนายกฯ แล้วคิดว่าจะเลวลง มันไม่ใช่” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรกับคำว่าแบ่งแยกแล้วปกครอง พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนเข้าใจนิยามแต่ไม่เข้าใจว่าอะไรคือพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากที่มีการพูด นิยามคือการพูดทั่วไป แต่พฤติกรรมที่ท่านเห็น มันปฏิบัติอย่างไรถึงได้ใช้คำนี้ไปพูด ตนไม่เข้าใจ การใช้คำนี้มันเป็นอย่างไร ตนจะตอบว่ารุนแรง ก็ไม่แน่ใจ ว่ารุนแรงหรือไม่ ตนนิยามตรงนี้ไม่ได้ เมื่อถามว่า อาจเป็นการสะท้อนความอึดอัดในการทำงานที่ผ่านมาหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า มันไม่มีหมู่คณะไหนหรอก อย่างพวกคุณอยู่ในที่ทำงาน เคยเจอเวลาประชุมไหม ทุกคนก็มีเสรีทางความคิด ในที่ประชุมคงไม่มีใครพึงพอใจที่จะเดินตามนั้นได้ทุกเรื่อง แต่ท้ายที่สุด มันเป็นมติ ก็ต้องยอมรับ ถ้าคิดแบบนี้ก็จะเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง ความคิดเห็นต่างมีอยู่แล้ว แต่เมื่อยอมรับเป็นมติแล้วก็ต้องเดินหน้า ไม่ใช่เก็บมาเป็นเรื่องที่ไม่เดินตามไปพร้อมกัน มันทำไม่ได้ งานในกระทรวงหลายเรื่องที่ตนไม่เห็นด้วย แต่มติส่วนใหญ่มีเสียงอนุมัติ ตนก็เดินเต็มที่
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า สำหรับในเรื่องของเศรษฐกิจก็ต้องเห็นใจ เพราะเป็นจังหวะด้วย ตนว่ามันไม่ง่าย ถ้าตนต้องไปอยู่กระทรวงเศรษฐกิจ ตนก็ไม่แน่ใจว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ เพราะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีด้วย ไหนจะเรื่องความเชื่อมั่นซึ่งมันไม่ง่าย ต้องเข้าใจ แต่คนที่อยู่ก็ต้องทำ จะบ่นว่าล้มเหลวก็ไม่ได้ แม้เราจะไม่ยอมรับว่าบ้านเมืองหรือโลกเศรษฐกิจไม่ดี แต่เราต้องยอมรับว่า ประชาชนให้เรามาแก้ไข ต้องทำให้ดีที่สุด ไม่มีสิทธิที่จะบอกอย่างนู้น อย่างนี้ เพราะในสภาวะแบบนี้ ประชาชนต้องการผู้นำที่แก้ไขปัญหาให้เขาได้ กินต้องอิ่ม นอนต้องหลับ ผู้ปกครองต้องคิดแบบนี้ตลอดเวลา ก็ต้องรับเสียงกระแสจากประชาชน
เมื่อถามว่า นายกฯ เคยให้เหตุผลอะไรที่ให้ท่านดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่เคยถาม เพียงแต่บอกท่านว่าให้สบายใจ ถ้าท่านมีคนดีคนใหม่ก็ปรับได้ตลอด ตนพูดตั้งแต่ที่ท่านบอกจะให้ตนเป็นรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งท่านบอกว่า “พี่มั่นใจ ว่าน้องทำได้” ซึ่งตนก็จะทำให้เต็มที่