“อำนวย” ปฏิเสธ รมต.ที่ถูกปรับพ้น ครม.ตั้งวงปรับทุกข์ แค่หารือส่งไม้ต่อให้ รมต.ใหม่ ยันมีสปิริตพอ ไม่น้อยใจ บอกนายกฯ ตั้งใครเข้ามาเหมาะสมทั้งนั้น ขณะเดียวกัน รมช.เกษตร รับข้อเสนอปฏิรูปการเกษตร พร้อมมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดแจกจ่ายเกษตรกร
นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์วันนี้ (19 ส.ค.) ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คงเป็นที่ชัดเจนแล้ว เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในประชุม ครม.ครั้งที่ผ่านมากับบรรดารัฐมนตรีว่าจำเป็นต้องมีการปรับในบางตำแหน่ง ซึ่งคนที่ถูกปรับออกก็ไม่ได้หายไปไหน เพราะนายกฯ มอบหมายให้มาช่วยกันทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ
อย่างไรก็ตาม นายกฯ ได้พูดเพียงเท่านี้ โดยไม่ได้บอกว่าจะมีตำแหน่งไหนถูกปรับบ้าง และทุกคนเข้าใจว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรถาม ส่วนที่มีรายชื่อของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรมว.เกษตรฯ นั้น ถ้านายกฯ สั่งก็เหมาะสมทุกประการ
ส่วนที่มีข่าวว่าเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ไปร่วมปรับทุกข์กับบรรดารัฐมนตรีที่มีชื่อถูกปรับออก นายอำนวยกล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการปรับทุกข์ แต่ไปพูดคุยกันว่าจะมีการส่งไม้ต่อให้คนที่จะเข้ามาทำงานต่อด้วยวิธีการใดเพื่อที่จะทำงานได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการปรับ ครม.จะทำให้การต่อเนื่องหรือไม่นั้น ตนคิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะไม่ว่ารัฐมนตรีหน้าเก่าหรือไม่ แต่นายกฯยังเป็นคนเดิม และนโยบายยังเป็นนโยบายเดิมที่ได้แถลงต่อรัฐสภา
“ผมไม่รู้สึกกังวลอะไร และไม่น้อยใจ ผมมีสปิริตเต็มร้อยอยู่แล้ว แม้ว่าจะเข้ามาร่วม ครม.หลังคนอื่น 2 เดือน เพราะนายกฯย้ำอยู่เสมอว่าทุกปัญหาเป็นเรื่องของทุกคน ไม่ว่าใครก็ต้องร่วมกันแก้ปัญหา”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปการเกษตร ในคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์ การท่องเที่ยวและบริการ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้ส่งมอบรายงานทิศทางการปฏิรูปภาคเกษตรประเทศไทย พร้อมรับมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเพื่อแจกจ่ายให้เกษตรกรทั่วประเทศ จำนวน 15 ตัน แก่นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ ภายหลังจากอนุกมธ.ได้ดำเนินการศึกษาภาพรวม และแนวทางการปฏิรูปการเกษตรแล้วเสร็จ
นายอุทัยกล่าวว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผลผลิตเฉลี่ยสินค้าเกษตรของไทยเกือบทุกชนิดตกต่ำ และมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าประเทศแถบอาเซียนมาจากการใช้เมล็ดพันธุ์ไม่ได้คุณภาพ ทางอนุ กมธ.จึงร่วมกับสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย มอบเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าวโพดฝักให้แก่กระทรวงเกษตรฯ เพื่อนำไปส่งเสริมให้กับเกษตรกรหลายจังหวัด นอกจากนี้ อนุ กมธ.ยังเตรียมเสนอรัฐบาลเร่งพัฒนาระบบชลประทานทั่วประเทศ ให้ครอบคลุมพื้นที่เกษตร พร้อมทั้งจัดทำแผนพัฒนาภาคการเกษตรทุก 5 ปี ให้เป็นลักษณะเดียวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติซึ่งที่ผ่านมาภาคการเกษตรถูกเอาเปรียบมาตลอด ไม่สามารถคิดหรือทำอะไรได้เอง ตนในฐานะที่ทำงานด้านเกษตรมา 50 ปี รู้และเข้าใจปัญหาจึงได้พยายามหาทางแก้ไข และเมื่อได้ข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลแล้ว จากนี้ตนก็จะติดตามเรื่องดังกล่าวต่อไป
ด้านนายอำนวยกล่าวว่า สปช.ทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่การแก้ปัญหาเร่งด่วน โดยมีข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล รวมถึงข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปภาคการเกษตรซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก