โฆษกกระทรวงกลาโหม ขอประณามผู้ก่อเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มเสียผลประโยชน์ทางการเมืองที่ต้องการทำลายบรรยากาศเวลาแห่งความสุขของคนไทย ลั่นฝ่ายความมั่นคงจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีก
วันนี้ (17 ส.ค.) พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุและกลุ่มคนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ กทม. เมื่อคืนวันที่ 17 ส.ค. 58 จนเป็นเหตุให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
การกระทำดังกล่าวเป็นความตั้งใจของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมือง ที่ต้องการทำลายบรรยากาศเวลาแห่งความสุขของคนไทยทั้งประเทศที่ผ่านมา เป็นความพยายามที่ต้องการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย และสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม ที่สำคัญ เป็นการประสงค์ต่อชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ในที่สาธารณะ ซึ่งเหตุการณ์รุนแรงในลักษณะเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนใน กทม. และต่างจังหวัด ที่ผ่านมา
ประเทศไทยกำลังอยู่ระหว่างการรวมพลังความเป็นหนึ่งครั้งสำคัญ เพื่ออนาคตของประชาชนทั้งประเทศ ความคิดเห็นต่างสามารถมีได้ แต่การใช้ความรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ หรือการมุ่งทำร้ายและซ้ำเติมบ้านเกิดเมืองนอนของตน โดยมุ่งความสะใจและประสงค์แต่ผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง เป็นสิ่งที่ประชาชนไทยส่วนใหญ่ไม่สามารถยอมรับได้ และฝ่ายความมั่นคงจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีก
พล.ต.คงชีพ กล่าวอีกว่า ขอให้กลุ่มไม่หวังดีที่ก่อเหตุและกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น หยุดการกระทำที่ป่าเถื่อนต่อคนไทยด้วยกัน และหยุดทำร้ายประเทศชาติ พร้อมทั้งขอความร่วมมือสื่อมวลชน และประชาชนไทยทุกคน รวมทั้งภาคีเครือข่ายเพื่อสิทธิมนุษยชน และองค์กรทุกภาคส่วนร่วมกันประณาม และจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ประสงค์ทำร้ายประเทศไทยดังกล่าว พร้อมทั้งมีส่วนร่วมกันเฝ้าระวัง แจ้งเหตุ และเบาะแสการกระทำที่จะนำมาซึ่งความเสียหายต่อสังคม ให้เจ้าหน้าที่รัฐทราบโดยทันที
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐกำลังพยายามและหยุดยั้งการใช้ความรุนแรงต่อสังคมอย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งขอให้ประชาชนเชื่อมั่นและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ
การมีส่วนร่วมและความพยายามร่วมกันของประชาชนและภาครัฐอย่างแน่วแน่ ต่อการจัดการกับกลุ่มบุคคลที่บ่อนทำลายความมั่นคงประเทศชาติอย่างจริงจัง จะนำมาซึ่งความสุขสงบถาวรของประเทศชาติอย่างยั่งยืนในที่สุด