ผู้ปกครองโครงการการศึกษานานาชาติ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวมตัวกันเพื่อสอบถามผู้บริหารมหาวิทยาลัย หลังคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ตั้งอาจารย์ใหญ่ทำหน้าที่แทนผู้ก่อตั้ง อ้างหมดอำนาจแล้ว ชี้คณบดีใช้อำนาจไม่มีเหตุผล ทำลายระบบการศึกษาที่ดีทำไม
วันนี้ (3 ส.ค.) ที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กลุ่มผู้ปกครองนักเรียน โครงการการศึกษานานาชาติ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (สาธิตเกษตรไอพี) ได้มีการรวมตัวกันที่ลานไอพี เพื่อประชุมหารือปัญหาอนาคตของบุตรหลาน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ รศ.ดร.สุรชัย จิวเจริญสกุล คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง ผศ.ดร.ศศิธร จ่างภากร อาจารย์ใหญ่ให้ทำหน้าที่ประธานโครงการการศึกษานานาชาติ และ ผศ.อัจฉราพรรณ คอวณิช ทำหน้าที่ รองประธานโครงการฯ เข้ามาดูแลบริหารแทนคณะผู้บริหารซึ่งมี รศ.ดร.จงรักษ์ ไกรนาม ประธานบริหารโครงการการศึกษานานาชาติ ผู้ก่อตั้งโครงการพ้นจากตำแหน่งอย่างกะทันหัน
ทพ.นพรัตน์ ทองประเสริฐ ผู้ปกครองของนักเรียนเกรด 10 และเกรด 11 ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ปกครองเป็นห่วงบุตรหลานมาก ยิ่งลูกๆ ในขณะนี้อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปลาย ทางผู้บริหารของไอพีที่มี รศ.ดร. จงรักษ์ ดูแลจะใช้เวลาใกล้ชิดเป็นพิเศษ แก้ปัญหาประกบติดเด็กนักเรียนอย่างประณีตในความเป็นครู ผู้ปกครองพูดได้ว่าเลือกเรียนที่นี่เพราะท่านคุมหลักสูตรเองใส่ใจกับโรงเรียน เพื่อให้เป็นโรงเรียนสาธิตที่ดี ผู้ปกครองทุกคนก็ว่าได้ ถึงเลือกให้ลูกๆ มาเรียนกันที่นี่ แต่จู่ๆ ทางคณบดีผู้บริหารของคณะศึกษาศาสตร์ได้เปลี่ยนแปลงผู้บริหารกะทันหัน มีเจตนาผิดปกติอย่างไม่มีเหตุผล โดยมิได้คำนึงถึงระบบการศึกษาที่ รศ.ดร. จงรักษ์ สร้างกันมาเป็นที่ยอมรับในสังคมไทย เป็นแม่แบบให้กับระบบการศึกษาโรงเรียนสาธิตอินเตอร์มาดูงานและให้การยอมรับสูง ทำไมถึงเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
“จู่ๆ ผู้ปกครองก็มาทราบว่า อ.จงรักษ์ไม่ได้บริหารแล้ว ทำไมถึงไม่มีการเตรียมการรองรับเพื่อส่งทอดนโยบายการศึกษา หลักสูตร เตรียมคนเตรียมผู้บริหาร ส่งมอบหรือสานต่อหลักสูตรนโยบายการศึกษาที่นี่ อยู่ๆ มาแจ้งว่าหมดอำนาจแล้ว สิ่งเหล่านี้แสดงถึงวุฒิภาวะของระบบราชการ การบริหารการศึกษาของเด็กๆ ที่ดูไม่มีเหตุผล เหมือนหักดิบ ทิ่มแทงหัวใจผู้ปกครองกันเลย ทำไมผู้บริหารคณะศึกษาทำแบบนี้ เพราะสิ่งที่อาจารย์จงรักษ์ และผู้บริหารสร้างโรงเรียนสาธิตไอพีมาด้วยความทุ่มเท ตั้งใจ ซื่อสัตย์ต่อระบบการศึกษา และมิได้ทำให้มหาวิทยาลัยหรือคณะเสื่อมเสีย สิ่งเหล่านี้พิสูจน์จากความต้องการของผู้ปกครองที่แสดงความจำนงให้บุตรหลานมาเรียนจำนวนมาก ปีหนึ่งเกือบ 200 คน แต่สาธิตไอพีรับได้แค่ 30 คนโดยประมาณ โดยวันนี้ทางกลุ่มผู้ปกครองก็จะสอบถามไปยังผู้บริหารของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์” ทพ.นพรัตน์กล่าว
