สองแกนนำ นปช.โพสต์หยันเกม สปช. แค่แผนปูทางหาตัวนายกฯ “สมประโยชน์ทุกฝ่าย”

สองแกนนำ นปช.โพสต์เฟซบุ๊กเตือน สปช. “อย่าคิดว่าใหญ่” ชี้เกมนี้หวังขยายเวลาเลือกตั้งเป็นแผนปูทางหาตัวนายกฯ หยัน คสช.-กปปส.-ปชป.สมประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย “จตุพร” ขอประชาชนอย่าตกใจ เกมขยายเวลาเลือกตั้ง “ปึ้ง” สวน สปช.กำลังถูกใครกำกับการแสดง ชี้ไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญ ประเทศเสียหาย ด้านคน ปชป.ย้อนเพื่อไทยอย่าจุ้นพรรคอื่น

วันนี้ (3 ส.ค.) มีรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก PEACE TV ได้เผยแพร่คำพูดของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งกล่าวผ่าน “รายการมองไกล” ออกอากาศผ่านทางยูทิวบ์ หัวข้อข่าวว่า “ประธาน นปช.แนะประชาชนอย่าตกใจขยายเวลาเลือกตั้ง เชื่อแค่แผนปูทางหาตัวนายกรัฐมนตรี พร้อมกับปฏิรูปประเทศ” มีใจความว่า การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช.มีเป้าหมายเดียวกันคือการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ โดยแบ่งเป็น 2 แนวทาง คือ การคว่ำร่างฯ ในชั้น สปช. และการคว่ำร่างฯ ในชั้นการทำประชามติ ส่วนตัวมั่นใจว่าจะคว่ำในชั้นทำประชามติเนื่องจากเป็นอำนาจของประชาชน เพราะต้องการยื้อเวลา และเลื่อนเวลาการจัดการเลือกตั้งออกไป เพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูป อีกทั้งต้องการล็อคเป้าล็อคสเป็ก ได้ว่าจะกำหนดใครเป็นนายกรัฐมนตรีได้ รวมทั้งก็เพื่อให้กลุ่มตัวเอง ได้ทำงานต่อ จึงต้องการให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.อยู่ต่อ เพื่อกลุ่ม สปช.จะได้อยู่ด้วย เนื่องจากตัวเองอ่านขาดแล้วว่าตัวเองจะอยู่ไม่ได้ จึงเชียร์กันอย่างออกหน้าออกตา ดังนั้นจึงมองว่าจะทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายประเทศเกิดความหายนะ

ขณะเดียวกัน สมาชิก สปช.บางกลุ่มยังเดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประเทศพม่า แสดงถึงความไม่มั่นใจในร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะร่างเสร็จ เพราะก่อนหน้านี้เคยปฏิญาณตนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทยแล้วไม่สามารถทำได้ ตลอดเวลาหลายเดือนในการร่างรัฐธรรมนูญ ในขณะที่ สปช.มี 1 กลุ่มที่ต้องการทำประชามติ บวกกับการปฏิรูป 2 ปี อีก 1 กลุ่มซึ่งความจริงก็เป็นกลุ่มเดียวกัน ที่มีความตั้งใจในการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อจะได้ปฏิรูป

ประธาน นปช.ระบุด้วยว่า อีก 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่งหลังจากนี้ยังไม่รู้ว่าประเทศชาติจะเดินหน้าไปในทิศทางใด ประชาชนจึงไม่ต้องตกใจกับข้อเสนอการคว่ำร่างรัฐธรรรมนูญ บวกกับการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งอีก 2 ปี เพราะปัจจุบันก็มีเวลาอีก 1 ปีครึ่ง เพราะการวางกติกาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าทำเพื่อใคร เพื่อให้ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ เราสามารถชะลอความสูญเสียของประเทศได้ด้วยการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญในการทำประชามติได้ เพราะถือเป็นอำนาจของประชาชน โดยส่วนตัวยืนยันชัดเจนหากกติกาไม่เป็นตามประชาธิปไตยก็ไม่จำเป็นต้องเลือกตั้ง

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเช่นกันว่า กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ แถลงข่าวท่าทีมูลนิธิฯ พร้อมยืนยันทุกข้อเรียกร้องจะเป็นเอกสารไม่มีเดินขบวนผมก็เชื่อว่าไม่จำเป็น เพราะก่อนหน้านี้คนบนเวที กปปส.เดินขบวนไปรับตำแหน่งในแม่น้ำ 5 สาย หลายสิบคนแล้ว และขานรับลุงกำนันทันทีด้วยการประกาศยืนยันคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ และล่ารายชื่อเสนอคำถามประชามติปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง สัญญาณแบบนี้ถือเป็นการซ้ำเติมประเทศไทยให้ติดลบทางความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก

ถ้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นิ่งเฉยไม่มีท่าทีแตกต่างก็ยิ่งมองได้ว่าเกมนี้สมประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่ายหรือไม่ พร้อมกับเตือนสติ สปช.ว่า อย่าคิดว่าใหญ่แล้วทำอะไรก็ได้ ส่วนการเพิ่มคำถามปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ขอเรียกร้องเนติบริกรที่อยู่บนเรือแป๊ะอธิบายให้ฟังหน่อยว่า ถ้ารัฐธรรมนูญผ่านประชามติแล้วจะแก้ให้ปฏิรูปต่ออีก 2 ปี ค่อยเลือกตั้งได้ยังไง เพราะถ้าลงมือทำก็เท่ากับรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติ เป็นคนละฉบับกับที่บังคับใช้

“ส่วนการแถลงข่าวสถานการณ์นกกรงหัวจุกในประเทศไทย เดิมทีผมตั้งใจจะแถลงเลย เพราะโดยประเด็นไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองอยู่แล้ว แต่พอเห็นท่าทีฝ่ายความมั่นคงขึงขัง จะให้ขออนุญาตก็รู้สึกกังวลว่าอาจมีคนอ้างมาตรา 44 ไปคุกคามนกกรงหัวจุกได้ จึงขอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง” นายณัฐวุฒิกล่าว

ขณะที่ เมื่อวานที่ผ่านมา (2 ส.ค.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงยืนยันว่า หากนายณัฐวุฒิจะแถลงข่าวเรื่องนกกรุงหัวจุกก็ขอให้ทำหนังสือขออนุญาตมายัง คสช.

ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการพิจารณาผ่านหรือไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญของสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า คนไทยคงจำได้ว่า สปช.คือหนึ่งในแม่น้ำห้าสายที่มีต้นกำเนิดมาจาก คสช. การที่รัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน สปช.ไม่ใช่เรื่องยากที่จะกำกับการแสดงกันได้ หากจะอ้างว่า กมธ. ยกร่างฯ ไม่ยอมแก้ไขตาม สปช. และไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ และหากอ้างตาม สปช.สายที่มาจาก กปปส.ว่าต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้งก็เสนอให้ไม่โหวตผ่านรัฐธรรมนูญหรือไม่ หรือมีคำสั่งไม่ให้ผ่านรัฐธรรมนูญจากผู้ใหญ่โดยตรง ทั้งนี้ ไม่ต่างอะไรจากเล่นละครกันไป โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดกับประเทศชาติและประชาชน ทำเหมือนกับประเทศชาติเป็นของพวกท่านกลุ่มเดียว วันนี้พวกท่านต้องตระหนักรู้ได้แล้วว่า ประชาชนเดือดร้อนและเศรษฐกิจเสียหายก็เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ บริหารงานไม่เป็น เพราะส่วนใหญ่เป็นข้าราชการมืออาชีพ

นายสุรพงษ์กล่าวว่า วันนี้นักลงทุนไม่มั่นใจในทิศทางประชาธิปไตยของไทยและโรดแมพที่ประกาศไว้ ต่างชาติเขาก็รู้ว่าสามารถเลื่อนออกไปได้ตลอดเวลา อยากเตือนไปยังทุกฝ่ายว่าอย่าคิดว่าคนอื่นเขารู้ไม่ทันพวกท่าน และพยายามกล่าวหาว่านักการเมืองเป็นตัวปัญหาที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย หากครั้งนี้ประเทศไทยต้องก้าวถอยหลัง เศรษฐกิจถดถอยพวกท่านทั้งหลายต้องรับผิดชอบอย่างปฏิเสธไม่ได้ ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจของไทยในครั้งนี้ใหญ่หลวงหนัก ประวัติศาสตร์ชาติไทยต้องจารึกชื่อพวกท่านไว้ชั่วลูกชั่วหลานแน่นอน โดยเฉพาะพวกที่ชอบอวดเก่งอวดดี หยุดเล่นละครได้แล้ว ประชาชนเขาเบื่อละครน้ำเน่าเต็มทน

ขณะที่นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. ที่ระบุพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ว่า เคยบอกนายวรชัยแล้วว่าอยู่คนละพรรค ขอให้ต่างคนต่างอยู่อย่ามายุ่งกับพรรคประชาธิปัตย์ เอาเวลาไปคุยคิดเรื่องดีๆ ในพรรคและพวกตัวเอง ทำไมต้องตื่นเต้นตกใจกับการออกมาแถลงข่าวของมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ หรือกลัวพลังของประชาชนทั่วประเทศหลายล้านคนที่รู้ทัน

ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์กับมูลนิธิฯ จะมีที่มาจากกลุ่มเดียวกันก็ต้องมีความคิดในแนวที่ถูกต้องปกป้องผลประโยชน์ของบ้านเมืองเหมือนกัน แต่เราแยกบทบาทกันได้ว่า มียุทธวิธีและกรอบกติกาที่แตกต่างกัน ไม่ต้องเหมือนกันทุกเรื่อง พรรคประชาธิปัตย์พร้อมร่วมมือกับทุกกลุ่มที่ปกป้องผลประโยชน์ของบ้านเมือง นายวรชัย ต้องกลับไปทบทวนบทบาทของพรรคและพวกตัวเองให้เป็นเอกภาพ ว่าเป็นพวกเดียวกันหรือไม่ ทำตามกฏหมาย กติกาของบ้านเมืองหรือไม่ ฝึกการทำตนให้มีเหตุผลอย่าวิจารณ์ให้ร้ายคนอื่นจนเคยตัว