เกาะกระแส
00 สำหรับกรณีสหรัฐฯ ประกาศคงบัญชีไทยอยู่ในระดับ "เทียร์สาม" หรือระดับต่ำสุดของการจัดการแก้ปัญหาเรื่องการ "ค้ามนุษย์" หรือที่เรียกว่า "การค้าทาสยุคใหม่" งานนี้ถือว่าน่าเห็นใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะถือว่าในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาเราได้แก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าวอย่างเข้มข้นพอสมควร มีทั้งการออก พ.ร.บ.เพิ่มโทษ การจับกุมลงโทษเจ้าหน้าที่ มีการยึดทรัพย์กันไปหลายราย แต่ผลที่ออกมาจากคำแถลงของ "คุณพ่อสหรัฐฯ" ล่าสุดก็เหมือนกับว่าไม่มีอะไรดีขึ้น ราวกับว่าที่ผ่านมารัฐบาลไทยยังไม่ได้ขยับอะไรเลย
00 แม้ว่าหลังกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำแถลงประณามไทยไม่นานทางอุปทูตสหรัฐฯประจำไทย แพทริก เมอร์ฟี จะออกมาปลอบประโลมว่า นั่นเป็นการสรุปรายงานการค้ามนุษย์เมื่อปีก่อนจนถึงเดือนมีนาคม ยังไม่ได้นับรวมเอามาตรการแก้ปัญหาของไทยล่าสุดเข้าไป จึงเชื่อว่าในปีหน้า สถานการณ์คงจะต้องดีกว่านี้ นั่นก็ว่ากันไป แต่สิ่งที่น่าเจ็บปวดยิ่งกว่าหากเรามองให้ลึกลงไปกว่านั้นก็คือ ในสายตาของสหรัฐฯ ซึ่งชี้นำหลายประเทศในโลกใบนี้มองเรา "กระจอก" และ "ป่าเถื่อน" ในระดับเดียวกับอีกหลายประเทศที่เอ่ยชื่อกันมา แบบนี้แหละที่ทำให้เราต้องเศร้าหมอง และรู้สึกโมโห น้อยใจในโชคชะตายังไงก็ไม่รู้ ราวกับว่าชีวิตเราต้องขึ้นอยู่กับการบงการชี้ชะตาของคนอื่นอยู่ร่ำไป !!
00 แน่นอนว่า เมื่อผลการประกาศของสหรัฐฯ ออกมาแบบนี้แนวโน้มที่อียู จะประกาศในเรื่องเดียวกันเกี่ยวกับการทำประมงผิดกม.ของไทยที่ขีดเส้นเอาไว้ในราวเดือนตุลาฯ ผลก็น่าออกมาแบบเดียวกัน แต่นั่นอาจเลวร้ายกว่า เพราะอาจจะส่งผลต่อการบอยคอตสินค้าประมง ที่มีมูลค่านับแสนล้านบาทในแต่ละปีไปด้วย ดังนั้น สิ่งไทย และภาคธุรกิจไทยจะต้องทำอย่างเร่งด่วนก็คือ จะเตรียม "รับมือ" กับความเสียหายที่น่าจะเกิดขึ้นหลังจากนี้อย่างไร เพราะแนวโน้มการประกาศของอียู น่าจะออกมาในทางลบค่อนข้างแน่ !!
00 งานนี้ถ้าบอกว่าทางสหรัฐฯ มีทัศนคติในทางลบต่อไทย ต่อ คสช. ยังมีอยู่ต่อไปไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแม้แต่น้อย ดังนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับเราด้วยว่าเราจะอยู่แบบนี้กันต่อไป ต้องรอให้คนอื่นมาชี้ชะตาอยู่ตลอดเวลาอย่างนั้นหรือไม่ หรือว่าเราต้องมีการเปลี่ยนแปลงการหาตลอดส่งออกใหม่ๆ ต้องคบเพื่อนใหม่ ซึ่งเชื่อว่ายุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในอนาคตกำลังเปลี่ยนแปลง และที่สำคัญ ไทยต้องรู้จัก "เล่นเกม" มากกว่านี้ บางครั้งก็ต้อง "ขู่กรรโชก" แก้เผ็ดเอาบ้างเหมือนกัน บางครั้งต้องไปผูกมิตรกับบางประเทศเพื่อสร้างความเจ็บปวดให้พวกเขาบ้าง ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งเราก็ปฏิเสธถึงความทุจริตฉ้อฉลของขรก. เลวๆ ที่ส่วนใหญ่ก็มักเป็นพวก "คนมีสี" ทั้งนั้น มีทั้งสีเขียว สีกากี ถึงจะทำได้ ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะจริงจังปราบปรามไปตลอดหรือเปล่า เพราะนี่แหละคือการปฏิรูปอีกทางหนึ่ง
00 นั่งขำอยู่คนเดียวกับความพยายาม "สร้างเรื่อง" ให้ความสำคัญกับตัวเอง ของพวก "ก๊วนการเมือง" วันก่อนก็เห็นพวก กลุ่มของ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ออกมาปฏิเสธยืนยันไม่ร่วมกับ คสช.เด็ดขาด ไม่ว่าจะรูปแบบรัฐบาลแห่งชาติ หรือแบบไหนก็ตาม หากไม่มีการเลือกตั้งก่อน โถๆๆ แม่คุณ สำคัญตัวเองผิดไปหรือเปล่า เขาไม่เชิญไปให้ความซวยมาเยือนหรอก นี่ยังคิดว่าตัวเองเป็น "ซูเปอร์สตาร์" หรือไง เลือกตั้งคราวนี้ยังไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดหรือเปล่า จำได้หรือเปล่า ตอนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เมื่อหลายปีก่อนคิดว่าเจ๋ง ลงประจันกับ "สมัคร สุนทรเวช" แพ้ไม่เห็นฝุ่นเสียคนแล้ว แต่ก็อย่างว่า คนเรามันเก่งเรื่องการสร้างภาพเรื่องโฆษณาเกินจริงก็ยังต้องยกให้เค้าละ เวรจริง !!
00 วันก่อนคงเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอ่ยชื่อถึงหน่อยก็เลยฉวยโอกาสเอาไป "เคลม" เพิ่มราคาหลายเด้ง อย่างแรกก็รีบปฏิเสธว่า ไม่ร่วมหัวจมจมท้ายกับคสช. จากนั้นก็คงจะไป "ต้มหมู" แม้ว ทักษิณ ชินวัตร ฉวยโอกาสช่วงที่ "น้องปู" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังร่อแร่ ขออาสาเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย ลงชิงเก้าอี้นายกฯ ตามฝันสักที แต่ก็ใช่ว่าจะหวานหมูไปได้ง่ายๆ เพราะเชื่อว่าในพรรคคงจะไม่มีใครยอมกันง่ายๆ ประเภทไม่ลงทุนแบบนี้เห็นมาเยอะเหมือนกัน โดยเฉพาะคนพวกนี้เขาคิดแต่เรื่องกำไร เท่านั้น !!