“ประยุทธ์” เปิดเวทีสัมมนาทีเอ็มเอ รับธุรกิจเอกชนดีกว่าตนแต่บริหารได้ ย้ำความเชื่อใจเป็นปัญหา ขอช่วยกันสร้างความเข้มแข็ง เผยหลายชาติพร้อมลงทุนไทยแม้ค่าแรงสูง ลั่นไม่คุยประโยชน์กับใคร รับเป็นอัศวินม้าขาเป๋ปัญหาเพียบ ขออย่าเพิ่งพูดถึงปรับ ครม. ชี้ไม่ปรับก็จะออกกันเหตุงานแยะ ดักอย่าเอาปัญหาเศรษฐกิจไล่รัฐเพราะมีผลทั่วโลก สวนชาติอ้างสิทธิมนุษยชนรับผู้อพยพไปดูบ้าง วอนชาวนาอย่าต้าน กำลังช่วย
วันนี้ (16 ก.ค.) ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดเวทีสัมมนาระดับชาติ เรื่องแนวทางการพัฒนาธุรกิจไทยอย่างยั่งยืน เดินหน้าพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างต่อเนื่อง Thailand Conpetitiveness Conference 2015 (ทีเอ็มเอ) โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้มายืนตรงนี้ไม่แน่ใจว่าจะมีความมั่นใจให้กับพวกท่านได้แค่ไหน เพราะตนเป็นทหารมาทั้งชีวิต เรื่องธุรกิจและการปฏิบัติภาคเอกชนเก่งกว่าตนอยู่แล้ว แต่ในทางบริหารตนคิดว่าทำได้อยู่แล้ว แต่ทั้งหมดจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน วันนี้สิ่งที่มีปัญหามากที่สุด คือ ความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ระหว่างภาครัฐ เอกชน ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะประชาชนจะเข้าใจมากน้อยแค่ไหนว่าเราทำอะไรกันอยู่ วันนี้ประเทศไทยต้องขับเคลื่อนในทุกๆ ด้านไปพร้อมกัน และพร้อมรับฟังคำเสนอแนะว่าประเทศชาติจะต้องไปทางไหน และไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลอย่างเดียว ทุกฝ่ายต้องไปด้วยกัน โดยอาศัยการบริหารจัดการและการบูรณาการร่วมกัน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งมิตรประเทศต่างๆ
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้รัฐบาลนำทุกเรื่องมาศึกษา และอย่าลืมว่าประเทศชาติไม่ได้อยู่ได้แค่การเมืองเพียงอย่างเดียว ประเทศไทยอยู่ด้วยการเมืองมานานเต็มที วันนี้ต้องพัฒนาทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคง เศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ทุกคนถือเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้รับผลประโยชน์ไม่ว่าประเทศชาติจะเดินไปอย่างไร ดังนั้นทุกคนต้องร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็ง เหมือนในอดีตที่มีการพูดถึงไม้ไผ่อันเดียวสามารถหักได้ แต่พอมารวมกันหลายๆ อันก็หักไม่ได้ วันนี้เราต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น และพัฒนาประเทศให้เดินหน้าต่อไป ซึ่งตนเองไม่ต้องการผลประโยชน์อะไรจากใครทั้งสิ้น เพียงแต่ที่ผ่านมาประเทศไทยติดกับดักในเรื่องของความเข้มแข็ง ทุกภาคส่วนไม่มีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะในมุมมองของคนไทยด้วยกัน แต่ต่างประเทศอาจจะมองเป็นด้านๆ ไป
“วันนี้ทุกคนเป็นเจ้าของประเทศ จะต้องร่วมมือกันทั้งสร้างความเข้มแข็ง และสร้างความเชื่อมั่น เพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศ และวันนี้ประเทศไทยโชคดีที่มีมิตรประเทศที่ร่วมงานกับเราอย่างเข้มแข็ง จากการพูดคุยกับหลายประเทศยืนยันว่า พร้อมที่จะลงทุนในประเทศไทย แม้ว่าค่าแรงจะอยู่สูงถึง 300 บาทต่อวัน แต่ที่เขาพร้อมจะลงทุนเพราะประเทศไทยน่าอยู่ ประเทศไทยมีน้ำใจ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดน้ำท่วม วันนี้เขายืนยันว่าพร้อมจะร่วมมือต่อไป โดยเฉพาะในปี 2558-2559 หลายบริษัท ในหลายประเทศบอกแล้วว่าจะลงทุนในประเทศไทย และอยากอยู่ประเทศไทยต่อไปกว่าร้อยละ 70 ดังนั้น เราต้องมาคิดว่าเมื่อเขายังอยู่ เราจะทำอย่างไรให้บริษัทเหล่านี้อยู่ต่อไป สร้างความเข้มแข็งในแต่ละภาค เพื่อให้มีความพร้อม และเกิดความยั่งยืนในอนาคต”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกคนต้องคิดและสร้างความเข้าใจว่า ก่อนหน้าที่ตนจะเข้ามาบริหารประเทศนั้นเกิดอะไรขึ้น และเมื่อเข้ามาแล้วได้ทำอะไรไปบ้าง หลายอย่างที่ทำไปอาจจะไม่สามารถเกิดได้ในวันนี้หรือพรุ่งนี้ เพราะมีทั้งเรื่องการเมือง และเรื่องกฎหมายต่างๆ ทำให้การเดินหน้าประเทศมีปัญหาบ้าง รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณก็ยังไม่ปัญหา และปัญหาความไว้เนื้อเชื่อใจก็ยังไม่มาอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่ทำให้ตนทำงานไม่ได้คือเรื่องของการเมือง และเรื่องอุปสรรคต่างๆ บางครั้งทำให้งงเหมือนกัน แม้จะคิดหรือสั่งการไปแล้ว แต่บางครั้งก็ทำจริงไม่ได้ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกัน วันนี้เรื่องผลประโยชน์ตนไม่คุยด้วยกับใครทั้งสิ้น แม้แต่เพื่อนก็ยังไม่คุย โกรธกันไปก็เยอะ เพื่อนทิ้งไปก็เยอะ ครอบครัวก็เหนื่อย และเป็นห่วง แต่ก็ทำไงได้ ทำดลเพื่อประเทศ ตนไม่ใช่อัศวินม้าขาว แต่เป็นม้าขาเป๋ เพราะมีปัญหาประเดประดับเข้ามา วิ่งขาจะเปื่อยอยู่แล้ว แต่ทุกคนต้องช่วยตนสร้างความเข้าใจ อย่าคิดว่าใช้มาตรา 44 ได้หมดทุกเรื่อง
“หลายคนเข้าในว่าผมมีอำนาจพิเศษ มันน่าจะทำทุกอย่างได้ แต่ถามว่าถ้าใช้วิธีการบังคับ มันจะเกิดอะไรขึ้นทั้งใน และต่างประเทศ และผมก็เห็นว่ามีคนไทยบางคนยังชอบทำลายประเทศไทย ก็ต้องช่วยกันอธิบายว่าวันนี้ประเทศไทยอยู่ตรงไหน เรามีกฎกติกา และกฎหมายทุกคนต้องเข้าใจฐานะประเทศไทยในวันนี้ ผมเองก็เป็นทหารประชาธิปไตย และอยู่กับรัฐบาลประชาธิปไตยมาตลอดชีวิต เว้นแต่ก่อน 6 เดือนที่เข้ามา ประเทศไทยมีปัญหา และไม่สามารถทนเห็นบ้านเมืองมีปัญหาต่อไปแบบนี้ได้ ก็ต้องเข้ามาช่วยหาทางออก ถ้ามีทางออกผมก็คงไม่เข้ามาทำ แต่ที่ต้องเข้ามาเพราะทิ้งไม่ได้ ต้องการแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว และคิดว่ารัฐบาลหน้าก็ต้องทำแบบนี้ ทำต่อไปในแผนที่ผมวางไว้ วันนี้คนไทยอย่าคิด หรือทำอะไรด้วยสมองตัวเองทั้งหมด แม้แต่รัฐบาลเองก็ทำไม่ได้ ต้องเอาสิ่งที่คนข้างนอกมองเห็นมาดูและปรับปรุงให้เข้ากับประเทศของเรา ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาเรามักจะคิดเองทำเอง”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า วันนี้ต้องยอมรับว่าบ้านเรามีปัญหาเรื่องการศึกษา จึงต้องมาแก้ไขและปรับปรุงเพราะเรามีคนอยู่ 3 ระดับ คือ พวกที่เรียนเก่งมีความรู้ พวกที่กลางๆ ซึ่งพร้อมจะไปไหนก็ได้ กับพวกที่อยู่ข้างล่างซึ่งต่อต้านทุกอย่าง เมื่อมีใครมาปลุกปั่นก็พร้อมที่จะลุกขึ้นมา จึงต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนทั้ง 3 ระดับเดินหน้าไปพร้อมกันให้ได้ ซึ่งตอนนี้ตนได้เร่งกระทรวงศึกษาธิการให้ดำเนินการ และส่งต่อการปฏิรูปไปยังรัฐบาลหน้า และวางแผนว่ารัฐบาลหน้าจะต้องทำอะไรบ้างแต่ถ้าเขาไม่ทำก็ขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคนจะตัดสินใจอย่างไร เพราะถือว่าทุกคนเป็นผู้กำหนดชะตากรรมประเทศ เพราะเป็นคนเลือกตั้งเข้ามา แล้ววันนี้ตนก็ฟังทุกคำแนะนำ และหาทางออกให้ได้ในเวลาที่มีจำกัด
“ขอให้ทุกคนเห็นความจริงใจของผมและรัฐบาลที่เข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่ไม่ได้อะไรกลับไปเลย เพียงแต่ขอให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ไม่อ่อนแอ ผมก็สบายใจกลับไปนั่งเป็นลุงแก่ๆ อยู่ที่บ้าน ประเทศไทยติดกับดักเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางเป็นเวลานานตั้งแต่ปี 2530”
ส่วนเรื่องปรับ ครม.นั้น วันนี้อย่าเพิ่งพูดถึง ทั้งรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีวันนี้ก็จะลาออกกันหมดแล้ว เพราะมีภาระเยอะ เหนื่อย ไม่ต้องปรับเขาก็จะออกกันหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าจะต้องมั่นใจในตัวตนเพียงคนเดียวต้องเชื่อมั่นในตนและ ครม.ด้วย สำหรับการโปรดเกล้าฯ รัฐธรรมนูญชั่วคราว ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม 2558 ขณะนี้ได้มีการโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว ซึ่งมีการเปิดช่องให้ทำประชามติ เพราะที่ผ่านมามีการเรียกร้องขอให้มีการทำประชามติ ซึ่งใครขอมาตนก็ให้ เพราะต้องรับฟังความคิดเห็นของทุกคน อยากให้เห็นถึงความจริงใจของตนและรัฐบาล ถ้าวันหน้าประเทศดีไม่มีความขัดแย้ง ตนก็เป็นแค่ตาแก่คนหนึ่งคอยมองดู ถ้าไม่ดีก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
สำหรับเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ในวันนี้ต้องเข้าใจว่ามีผลจากเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ไม่ใช่นำเรื่องนี้มาไล่ล่ารัฐบาล แต่เราต้องมาคิดกันว่าจะทำอย่างไรในอนาคตเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก ขณะเดียวกัน ปัญหาการดูแลผู้อพยพ ไทยดูแลผู้อพยพภัยสู้รบกว่า 4 แสนคนมาถึง 30 ปี วันนี้เหลือเพียง 1.4 แสนคน เราจะไปไล่ใครไม่ได้ เพราะคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนและคำนึงถึงความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน อยากให้ประเทศที่พูดเรื่องสิทธิมนุษยชนควรรับไปดูแล และอยากบอกให้ผู้ที่มาโจมตีเข้าใจด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงรายได้ของประเทศร้อยละ 70 มาจากการเกษตร แต่วันนี้ทุกอย่างมันตกลงเกือบทั้งหมด ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องมาวิเคราะห์ว่าจะต้องสร้างความเข้มแข็งอย่างไร ประเทศไทยมีเนื้อที่ประมาณ 320 ล้านไร่ ทำการเกษตรประมาณ 147 ล้านไร่ มีเนื้อที่ในเขตชลประทานไม่เกินร้อยละ 40 นอกนั้นอยู่นอกเขตชลประทานที่ใช้น้ำฝนอย่างเดียว เมื่อฝนไม่ตกจึงเดือดร้อนทั้งหมด รัฐบาลจะต้องมาดูว่าจะบังคับให้เปลี่ยนการเพาะปลูกทันทีไม่ได้ ต้องสร้างความเข้าใจ และจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ทางการเกษตรไป 800 กว่าศูนย์ ตั้งตลาดชุมชนไปกว่า 2,000 แห่ง เพื่อแนะนำเกษตรกร แต่บางคนไม่ฟังก็ออกมาต่อต้านกล่าวหาว่าจะให้เลิกปลูกข้าวแล้วจะทำอะไรกิน ตนได้ชี้แจงว่าถ้าเลิกปลูกรัฐบาลจะหาเงินไปให้ และให้คำแนะนำปลูกพืชอย่างอื่น แต่ก็ยังสงสัยว่าเงินลงไปไม่ถึง อาจจะมาจากสาเหตุ 2 อย่าง คือ รัฐบาลทำไม่ได้ดีเรื่องการการจายข้อมูลข่าวสาร หรือมีคนบิดเบือนที่อยู่ข้างล่าง ยอมรับว่าเป็นห่วงถ้ายังมีคนเหล่านี้อยู่ก็จะทำให้การเดินหน้าประเทศไปไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ได้ออกจากห้องสัมมนาหลังเสร็จงานเพื่อกลับทำเนียบรัฐบาล ทันทีที่เห็นผู้สื่อข่าวดักรอสัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์มองมาที่กลุ่มผู้สื่อข่าวพร้อมกับกล่าวว่า จะสัมภาษณ์เรื่องอะไร ถ้าเป็นเรื่องการเมืองไม่ตอบ ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อเสริมทัพด้านเศรษฐกิจให้เกิดประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สื่อไปเขียนกันเองทั้งนั้น เมื่อถามว่า ตกลงไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีตามที่เป็นข่าวใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวทันทีว่า ไม่รู้