นายกฯ เผย ครม.หารืออยู่ หลัง สปช.ส่ง 37 ประเด็นรูป ไม่ต้องเข้าถกแม่น้ำ 5 สาย แจงคลังยันปัญหาเศรษฐกิจกรีซไม่กระทบไทยมาก ชมภาคเหนือ-เชียงใหม่การท่องเที่ยวดีขึ้นมาก ย้ำเมื่อใดสงบไทยพร้อมเป็นศูนย์กลาง ย้ำไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สร้างสามัคคีคนพื้นที่
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชมพรรษา จ.เชียงใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ส่งประเด็นการปฏิรูปทั้ง 37 ประเด็นต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.กำลังหารือกันอยู่ ต้องคุยกันก่อนว่าจะบรรจุเข้าไปในแผนปฏิรูปอย่างไร มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติไปขับเคลื่อนอย่างไรแต่ตนคงไม่ไปคุมเขามากเพราะเป็นเรื่องของรัฐบาลหน้าที่มาจากการเลือกตั้งให้เขาทำไป
เมื่อถามว่าวันนี้ยังไม่ได้มติออกมาใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องไปหารือกัน เพราะจะต้องไปปรับให้ตรงกัน ทำไมจะต้องเป็นมติกันนักหนาก็ไม่รู้โดยไม่ต้องรอการประชุมร่วมแม่น้ำ 5 สาย เพราะเขาก็ทำงานกันตลอด
“การทำงานไม่ใช่ประชุมแล้วสั่งแล้วเสร็จทันที สั่งการต้องพูดคุยแล้วไปทำกัน ไม่ใช่ในห้องเพียงอย่างเดียว เพราะมีคณะที่จะต้องหารือกันนี่แหละการทำงาน ต่างประเทศเขาทำงานกันแบบนี้ นายกฯ สั่งนโยบายริเริ่ม ครม.ไปขับเคลื่อนรัฐมนตรีไปทำ แล้วนำไปสู่การปฏิบัติในระดับในแบบนี้ ทุกอย่างมีกฎหมายดักไว้หมด ปัดโธ่ ผมพูดวันนี้แล้วเสร็จวันนี้ที่ไหนเล่า แค่นี้ก็เร่งเต็มที่อยู่แล้วทุกเรื่อง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจของประเทศกรีซที่เกรงอาจจะมีผลกระทบต่อประเทศไทยหรือไม่ว่า เรื่องนี้ได้มีการหารือพูดคุยกัน กระทรวงคลังแจ้งว่าคงมีผลกระทบไม่มากเพราะไทยไม่ได้เป็นคู่ค้าโดยตรง ไม่มีพันธสัญญากับกรีชมากนัก แต่คงมีผลกับประชาคมยุโรปที่มันเชื่อมโยงกัน ขึ้นอยู่กับว่าประชาคมยุโรปจะให้กรีซอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่อยู่กรีซจะจะล้มละลายซึ่งเราอาจมีผลกระทบด้านการค้าขายกับประชาคมยุโรป
พล.อ.ประยุทธ์ยังให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการที่เชียงใหม่ว่า ขอชื่นชมจังหวัดภาคเหนือโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ บ้านเมืองสวยงาม อากาศที่ดี และการท่องเที่ยวในปีนี้ดีขึ้นมาก สถานการณ์โลกจะมีโรคระบาดและความขัดแย้ง คนก็มาเที่ยวประเทศไทย นี่คือสิ่งที่อยากจะบอกกับคนไทยว่าเมื่อใดก็ตามที่บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยเราก็พร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางหลายๆ อย่างทั้งสาธารณสุข และการท่องเที่ยว และต้องสร้างความเชื่อมโยงให้ได้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนได้เน้นย้ำในเรื่องการท่องเที่ยวไปว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ทำลายสิ่งแวดล้อมและทำให้ได้ความรักและสามัคคีต่อคนในพื้นที่ ให้เขามีรายได้ ทุกรัฐบาลต้องคิดแบบนี้ ทั้งนี้ที่ผ่านมาอาจจะมีรายได้ดี แต่ไม่ได้แก้ปัญหาเหล่านี้ ทำให้หมักหมมมาเรื่อยๆ ความปลอดภัยก็แย่ การบริหารจัดการก็แย่ ห้องน้ำ ที่จอดรถก็ไม่ดี ต้องค่อยๆ แก้จนกระทั่งดีทั้งหมด ตนเข้ามาเร่งทุกอย่างเต็มที่