xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” แจงศูนย์ปรองดองฯ ย้ำเรื่องพลังงานปัญหาใหญ่ แนะ “ประยุทธ์” ดูวิดีโอที่อัดไว้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการออนไลน์ - “ปานเทพ” แจงหลังศูนย์ปรองดองฯ เรียกรายงานตัว เผยเสนอเรื่องพลังงานกว่า 2 ชั่วโมง ไร้เรื่องการเมือง ทหารอัดวิดีโอด้วย เผยทุกคนในห้องประชุมเครียด เป็นเรื่องใหญ่ ชวน “ประยุทธ์” สร้างอำนาจต่อรองกลุ่มทุนพลังงาน ระบุพูดที่ไหนไม่ได้เพราะเป็นการเจรจาความระหว่างประเทศ ย้ำการปรองดองไม่ใช่เรื่องสีเสื้อ แต่ต้องตระหนักผลประโยชน์ของชาติ-ครองใจคนทั้งประเทศ


วันนี้ (19 มิ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ตัวแทนเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) กล่าวกับ “ASTV ผู้จัดการออนไลน์” ถึงกรณีที่ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) เรียกเข้าพบที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ระบุว่า ในการเข้าพบครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนตรงที่เป็นการเรียกเข้าพบเป็นรายบุคคล ไม่มีปะปนกับใคร จากที่ครั้งก่อนเป็นการเรียกบุคคลมารวมตัวกัน โดยมี พล.ท.บุญธรรม โอริส รองผู้อำนวยการ ศปป.เป็นประธาน พร้อมด้วยนายทหารนายอื่นๆ ร่วมรับฟังในห้องประชุม

ทั้งนี้ ในการเข้าพบกับ ศปป.ครั้งนี้ตนไม่ได้พูดถึงเรื่องรัฐธรรมนูญ แต่ได้นำเสนอเรื่องพลังงานอย่างเป็นระบบเป็นรายละเอียดกว่า 2 ชั่วโมง และมีการอัดวิดีโอ ตนเชื่อว่าถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ดูจะเป็นประโยชน์ในการสร้างอำนาจต่อรองให้รัฐไทยกับบริษัทที่ได้รับสัมปทานปิโตรเลียมเดิม จากการสังเกตปฏิกิริยาคนที่นั่งในห้องประชุมนั้นดูหนักใจและเครียดขึ้นมาทันทีเมื่อฟังปัญหาและรู้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ หลังประชุมแล้วทุกคนมีท่าทีเข้าใจว่าเป็นอย่างไร เป็นปัญหาหนักขนาดไหน พร้อมให้กำลังใจและจะหาทางในการนำเสนอนายกรัฐมนตรีให้ได้โดยเร็ว พยายามจะช่วยกันในทุกวิถีทาง

เมื่อถามว่า จากการเข้าพบ ศปป.ในครั้งนี้มั่นใจขนาดไหนว่ารัฐบาลจะรับข้อเสนอ นายปานเทพกล่าวว่า ตนไม่รู้เลย รู้แต่ว่าตนนำเสนอให้เห็นถึงความสำคัญ และเป็นเรื่องจิตสำนึกของคนในชาติ ซึ่งคราวปรองดองที่แท้จริงมันไม่ใช่การจับสีเสื้อในมิติของกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ทางการเมือง ที่เราเอาเรื่องผลประโยชน์ของชาติเข้ามา ทำให้ทหารกลุ่มหนึ่งซึ่งอาจไม่เคยรับข้อมูลมาก่อนได้ตระหนักว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องที่สามารถครองใจประชาชนคนทั้งประเทศได้ถ้าทำสำเร็จ ซึ่งจะนำไปสู่การปรองดองที่เป็นรูปธรรมและเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ประชาชนสัมผัสได้อย่างแท้จริงและยั่งยืนด้วย

“ผมได้พูดเรื่องนี้ไปและดูเหมือนเขาจะเข้าใจมากขึ้น ไม่ถือว่าเป็นการปรับทัศนคติ แต่คิดว่าให้เขามีข้อมูลมากขึ้น ผมพูดเป็นหลัก โดยที่ไม่มีการข่มขู่ โต้แย้ง มีแต่ห่วงใยในบางเรื่อง เขาดูเหมือนจะคล้อยตามในสิ่งที่เราได้พูดไปด้วย เขาหนักใจบางเรื่องที่เขาคิดว่าจะเกิดกรณีอย่างนั้นอย่างนี้ คือสร้างแบบจำลองในสิ่งที่มันเกิดขึ้นว่าเป็นไปได้อย่างไรบ้าง ผมคิดว่าถ้านายกฯ ได้มีโอกาสได้ฟัง จะเป็นประโยชน์ต่อนายกฯ มาก และเป็นประโยชน์ต่อประเทศมาก เพราะเป็นเรื่องที่ผมไม่สามารถพูดได้ในที่ไหน เพราะเป็นเรื่องการเจรจาความระหว่างประเทศ และก็เป็นเรื่องอำนาจต่อรองที่สามารถสร้างขึ้นได้ ถ้ามีการวางกลยุทธ์ที่ดี” นายปานเทพกล่าว

ก่อนหน้านี้ ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อเวลา 12.45 น. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เปิดเผยก่อนเข้าหารือตามคำเชิญของ ศปป.ว่า ตนเตรียมเอกสารข้อเสนอประเด็นด้านพลังงานเพื่อเสนอให้รัฐบาลพิจารณา นอกจากนี้ ได้เสนอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน ความไม่โปร่งใส โดยเฉพาะกิจการด้านพลังงาน ส่วนเรื่องการเมืองนั้น ตนเห็นว่ารัฐบาลรัฐประหารที่เข้ามาต้องหาคำตอบให้ได้ว่าต้องการเข้ามาทำอะไร ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลจะยุบสภาปฎิรูปแห่งชาติหรือจะตั้งสภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ แต่หนึ่งปีเศษที่รัฐบาลเข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งจนถึงตอนนี้รัฐบาลยังเป็นกรรมการห้ามมวยชั่วคราว ต้องหาคำตอบในปัญหาการปรองดองที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การเชิญแกนนำมาพูดคุยเท่านั้น เพราะเนื้อแท้ของความขัดแย้งมันอยู่ลึกกว่านั้น

สำหรับเรื่องร่างรัฐธรรมนูญนั้น ตนมองว่าปัญหาอยู่ที่นักการเมืองที่ใช้รัฐธรรมนูญสุจริตเพียงใด ตราบใดที่ยังอยู่ในวงจรแบบเดิมก็ยังต้องแก้รัฐธรรมนูญกันอยู่เรื่อยไป ทั้งนี้ รัฐบาลต้องทำเรื่องผิดถูกให้ชัดเจน เช่น ดำเนินคดีกับเรื่องทุจริตให้ถึงที่สุด และทำให้ไม่รู้สึกว่ามีคนโดนเอาผิดอยู่ฝ่ายเดียวแต่อีกฝ่ายไม่เป็นอะไร ที่ผ่านมาเอาผิดนักการเมืองไม่ได้หรือเอาผิดได้เพียงฝ่ายเดียว เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การเชิญตนมาวันนี้ยังขาดความชัดเจนว่าเชิญตนมาพูดประเด็นอะไร การเริ่มต้นด้วยคำถามว่าตนไปพูดเรื่องอะไรหรือสัมภาษณ์เรื่องอะไรนั้น ท่าทีแบบนี้จะส่งผลลบกับนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้นายกฯ เสียหาย

นอกจากนี้ นายปานเทพได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” ระบุว่า “ผมออกมาจากการพูดคุยแล้วกับทหาร 7-10 คน จากศูนย์ปรองดอง ใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง สรุปแล้วให้ผมนำเสนอเรื่องพลังงานเรื่องเดียวยาวเหยียด โดยเฉพาะเรื่องที่ผมพูดนั้นได้นำเสนอด้วยจิตบริสุทธิ์ที่มุ่งมั่นในการยึดเอาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง และได้ชี้แจงถึงกลยุทธ์และรายละเอียดในการสร้างอำนาจต่อรองของรัฐสูงสุดที่ผมไม่เคยพูดที่ใดมาก่อน และผมได้เชิญชวนทหารเข้ามาร่วมมือกับประชาชนมาสร้างความมั่นคงของชาติด้านพลังงานร่วมกันเพื่อลูกหลานของเรา ให้ทหารสำนึกและหวงแหนในทรัพยากรของชาติเพื่อที่จะนำมาสู่การปรองดองที่แท้จริง ผมสัมผัสและเห็นสายตาและแววตาทุกท่านได้ว่าตระหนักและหนักใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและจะเกิดขึ้นต่อไปหากไม่เร่งแก้ไข โดยผมบอกว่าเรื่องที่ผมต่อสู้อยู่นั้นไม่สามารถปรองดองกับใครได้ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องเลือกระหว่างผลประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศกับผลประโยชน์ของกลุ่มทุนพลังงานเพียงไม่กี่คน หลายคนในที่ประชุมให้กำลังใจผมขอให้ผมทำให้สำเร็จ และเห็นว่าข้อมูลที่ผมพูดนั้นมีความสำคัญและเป็นประโยชน์กับชาติ และจะนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไปโดยเร็ว”

ผมออกมาจากการพูดคุยแล้วกับทหาร 7-10 คนจาก ศูนย์ปรองดองใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง สรุปแล้วให้ผมนำเสนอเรื่องพลังงานเรื่อ...

Posted by ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ on Friday, June 19, 2015






กำลังโหลดความคิดเห็น