รมว.มหาดไทย ลั่นด้วยสัตย์จริงยังไม่รู้ใครจะนั่งปลัดฯ ไม่เชื่อนายกฯ ลงเชียงใหม่-พิษณุโลกจะเกิดความรุนแรง วอนอย่าก่อม็อบ การันตีไม่มีปฏิวัติซ้อนล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ทำได้ ชี้เสียง สปช.จ่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญแค่มองต่างมุม หนุนเถียงกันให้จบ ยันอายุรัฐบาลเท่าโรดแมป
วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการแต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย แทนนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน 2558นี้ โดยมีรายชื่อ นายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง และนายภานุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และอดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นแคนดิเดตว่า ด้วยสัตย์จริงตนยังไม่รู้เรื่อง ต้องดูทั้งหมดว่าจะเป็นใคร ส่วนคุณสมบัตินั้นจะต้องดีและเก่ง
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการที่จังหวัดเชียงใหม่ และลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกว่า เรื่องการรักษาความปลอดภัยเป็นเรื่องปกติที่ทำกันอยู่แล้ว และไม่เชื่อว่าจะมีวัฒนธรรมที่จะใช้ความรุนแรงกันอีก เพราะหากใช้วิธีเดิมเมื่อใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องลำบากในอนาคต ไม่ว่าจะใช้ความรุนแรงหรือมาก่อม็อบตนไม่เห็นด้วย มิเช่นนั้นจะเป็นวัฏจักรไม่รู้จักจบไม่ว่าสีไหนมาเป็นรัฐบาลก็ต้องมาเจอกันแบบนี้ ทำให้บริหารบ้านเมืองไม่ได้ อย่าไปทำวัฒนธรรมแบบนั้นเลย
“ผมมีความเชื่อมั่นว่าจะไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะขณะนี้คนไทยได้รับบทเรียนมาเยอะแล้วในเรื่องของการใช้กลุ่มพลังแล้วมาสร้างความวุ่นวาย เป็นบทเรียนที่บอกว่ามันไม่ใช่หนทางที่จะเดินไปและไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ผมเชื่อมั่นอย่างนั้น แต่ถ้าถามว่าจะมีกลุ่มเล็กๆ จัดตั้งมาหรือไม่ก็ว่ากันไป เจ้าหน้าที่ก็ต้องดูแลกันไป” พล.อ.อนุพงษ์กล่าว
รมว.มหาดไทยกล่าวถึงกระแสข่าวการปฏิวัติซ้อนว่า ไม่มีล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะตนคิดว่าห้วงเวลาขณะนี้ไม่ใช่วาระที่จะมาพูดกัน ประเทศไทยไม่ใช่ของเล่น ไม่ใช่ว่าใครอยากทำก็ทำได้ ผมตอบได้เลยว่าเมื่อถึงเวลาที่มันทำได้ก็จะรู้เอง นั่นหมายความว่าสถานการณ์มันไปไม่ได้คนเขารู้ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ใครอยากทำก็ทำ หรือคิดว่าอยากมีก็มี ผมตอบได้เลยว่ามันไม่ใช่ ที่บอกว่าไม่มีเพราะทหารดี รวมกลุ่มเข้มแข็ง แต่ตราบใดที่คนเห็นว่ารัฐบาลทำงานตอบสนองได้ ไม่โกง ไม่ลุแก่อำนาจ ยังบริหารงานได้ แต่ย้ำว่าแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อมีรัฐธรรมนูญเขาก็บอกว่าต้องออก
พล.อ.อนุพงษ์ยังกล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เกิดเสียงเรื่องการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญว่าไม่เป็นไร นี่ไม่ใช่การทะเลาะกัน แต่เป็นการมองต่างมุม ถกเถียงกันเพื่อให้ข้อยุติที่ดีและให้จบ พูดกันให้แจ่มแจ้งอย่ามัวแต่ไปอมพะนำกันอยู่ ให้ได้ข้อยุติและเข้าใจกันหมด โดยนำข้อยุตินั้นมาใช้งานได้ ส่วนอายุของรัฐบาลเวลานี้นายกรัฐมนตรียังคงยืนยันตามโรดแมป แต่โรดแมปของเดิมไม่มีประชามติ เมื่อมีเรื่องประชามติที่เข้ามาเวลาก็จะยื่นออกไปตามขั้นตอนการทำประชามติเท่านั้น ส่วนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีเวลานี้ส่วนตัวไม่ทราบ แต่เท่าที่ทำงานคือรัฐบาลยังสามารถทำงานได้
