xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” เซ็นเอ็มโอยูกับสิงคโปร์ 4 ฉบับ ยกเว้นภาษีซ้อน - ท่องเที่ยวทางเรือ - สินค้าดิจิตอลคอนเทนต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สิงคโปร์ - นายกรัฐมนตรีลงนามความเอ็มโอยูกับทางการสิงคโปร์ 4 ฉบับ อำนวยความสะดวกด้านการลงทุน ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือ ดิจิตอลคอนเทนต์ และยกเว้นภาษีซ้อน ขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลสิงคโปร์ที่เข้าใจสถานการณ์ พร้อมเชิญเข้ามาร่วมลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ

วันนี้ (11 มิ.ย.) เมื่อเวลา 16.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ ห้อง East Drawing Room ชั้น 2 ทำเนียบประธานาธิบดี ประเทศสิงคโปร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าร่วมการประชุม Leader’s Retreat กับ นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ได้แถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เกี่ยวกับผลการการประชุม โดยมีสาระสำคัญดังนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลสิงคโปร์ ที่ได้เชิญเยือนอย่างเป็นทางการในโอกาสที่ครบรอบ 50 ปี สถาปนาประเทศสิงคโปร์และการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย - สิงคโปร์ ไทยต้องการเพิ่มความสัมพันธ์ทางการทูตให้มากขึ้น อีกทั้งยังอยู่ในระหว่างที่สิงคโปร์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีกับความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดงานและอยากให้กีฬาทำให้สองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้น

โดยทั้ง 2 ฝ่ายยินดีที่ได้ลงนามความตกลง 4 ฉบับ สะท้อนให้เห็นถึงการขยายความร่วมมือระหว่างกัน โดยความตกลงดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมและอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน การส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือ และความร่วมมือด้าน Digital Content การยกเว้นภาษีซ้อน ภาคอุตสาหกรรม โดยนายกรัฐมนตรีให้คำมั่นจะทำความตกลงทั้ง 4 ฉบับ บรรลุให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยทั้งสองประเทศเห็นพ้องว่า ในโอกาสที่ความสัมพันธ์ทวิภาคีกำลังย่างเข้าสู่ทศวรรษที่ 6 และการเป็นประชาคมอาเซียนในปีนี้ ทั้งสองประเทศจะต้องร่วมมือกันเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และให้กับประชาคมอาเซียน จากความสามารถและภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์จะทำให้อาเซียนประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์การเมืองของไทย ว่า กลับสู่เสถียรภาพแล้ว โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนไปข้างหน้าการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน และกำลังเดินหน้าตามโรดแมป คาดว่า จะสามารถจัดการเลือกตั้งทั่วไปได้ในปี 2559 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลสิงคโปร์สำหรับความเข้าใจ ด้านการค้าและการลงทุน นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญภาคเอกชนสิงคโปร์ให้เข้ามาร่วมลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ บริเวณชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของไทย ทั้งนี้ ยังได้แจ้งถึงความพร้อมของไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกลไกทวิภาคี กรอบโครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยราชการไทยกับสิงคโปร์ (การประชุม Civil Service Exchange Programme (CSEP) ในปี 2558 และการประชุม Singapore-Thailand Enhanced Economic Relationship (STEER) ครั้งที่ 4 ในปี 2558)

สำหรับความร่วมมือด้านความมั่นคง ไทย - สิงคโปร์ พร้อมร่วมมือในทุกมิติ ทั้งทวิภาคี ภูมิภาค และประชาคมโลก นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ยังได้แสดงความชื่นชมที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเรื่อง illegal migrant อีกด้วย

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาค โดยเฉพาะระหว่างอาเซียน กับ จีน ในสถานการณ์ทะเลจีนใต้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีแจ้งความพร้อมของไทยที่จะสนับสนุนสิงคโปร์อย่างเต็มที่ในการรับหน้าที่ประเทศผู้ประสานงานอาเซียน - จีน ต่อจากไทยในช่วงกลางปีนี้

ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรี และ นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ 4 ฉบับ ได้แก่ ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างไทย กับ สิงคโปร์ (ฉบับแก้ไข) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการท่องเที่ยวทางเรือ บันทึกความเข้าใจสำหรับความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ และ การเข้าร่วมกิจกรรมด้านการผลิตและการตลาด สินค้าประเภท Digital Content ระหว่างสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์กรมหาชน) และ Media Development Authority (MIDA) และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกับ Singapore Manufacturing Federation (SMF)







กำลังโหลดความคิดเห็น