ประชามติวัดใจเอา-ไม่เอา “บิ๊กตู่” นำร่องเลือกนายกฯ โดยตรง

รายงานการเมือง

ชัดเจนเหลือเกินท่าทีล่าสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ที่ประกาศในเวทีสภาต่อหน้าลิ่วล้อสมาชิก สปช. และสนช.ว่าจะอาสาอยู่ในอำนาจต่อไป หากพวกคุณสนับสนุนผม!!!

หลัง สปช.แหย่ๆ เสนอไป เจอตอบกลับมาทันทีแบบนี้ เด้งรับแทบไม่ทันเกือบตกเก้าอี้ จากนี้ต้องรีบไปทำการบ้านกันขนานใหญ่สุมหัวกันทำร่างประชามติเสนอให้ประชาชนพิจารณา ซึ่งถือว่าสำคัญมากในการกำหนดประเด็นถาม เพราะนั่นหมายถึงความอยู่รอด และการอยู่ต่อของ “บิ๊กตู่”

แน่นอนว่าข้อหนึ่งต้องสอบถามเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญที่หน้าดำคร่ำเคร่งเขียนกันมานานแรมปี และเชื่อเหลือเกินว่าจะมีการพ่วงตามมาอีกอย่างน้อย 1 คำถาม หรืออาจมีมากกว่านั้น สิ่งที่ต้องถามเพิ่มเติมก็คือประโยคที่ พล.อ.ประยุทธ์พูดนั่นแหละ เพียงแต่จะออกแบบกันยังไง

ในเมื่อจะเสนอแนวทางนี้แล้วก็เอาให้มันชัดๆ ไปเลยครับท่าน ประชาชนท่านเห็นด้วยหรือไม่หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่เป็นนายกฯ ต่อไปอีก 2 ปี เพื่อทำภารกิจหลักปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง โปรดกากบาทในช่องเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย เท่านั้นพอ!!

มันดีจริงๆ ดีเหลือเกินนะ จะได้พิสูจน์กันให้ชัดแจ้งแดงแจ๋เลยว่า กระแสที่แท้จริง กระแสที่มีต่อตัว พล.อ.ประยุทธ์คืออะไรกันแน่ เพราะทุกวันนี้ไม่ค่อยได้ยินเสียงสะท้อนจากประชาชนหรอก เหตุผลเพราะอะไรก็รู้ๆ กันอยู่ และจะได้พิสูจน์ให้เห็นกันว่ากระแสมันดีเด่นดังตามที่คนรอบข้างใกล้ชิดตัวนายกฯ ป้อยอกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจริงหรือไม่ หรือกระแสมันห่วยแตกดังที่ลิ่วล้อสมุนทักษิณ และพวกเสื้อแดง ปรามาสกันเปรอะเปื้อนตามโลกโซเชียลมีเดีย

ทำแบบนี้เดี๋ยวรู้ เดี๋ยวรู้เลย!!!

หลักการทำประชามติแบบนี้มองอีกแง่มุมหนึ่ง เหมือนนำร่องรูปแบบการเลือกนายกฯโดยตรง ตามที่เคยมีข้อเสนอที่โยนออกมา แต่ไม่ค่อยได้รับเสียงขานรับจากสังคม มีแต่เสียงยี้มากกว่า ก็ติเรือทั้งโกลนกันไปก่อนที่จะทดลองใช้จริง ทั้งที่ความจริงมันอาจจะเหมาะกับบ้านเราก็ได้ ใครจะไปรู้?

เที่ยวไปลอกของประเทศนั้นประเทศนี้มา ไม่ได้ใคร่ครวญครุ่นคิดวัฒนธรรมประเพณีคนไทย เรื่องที่น่าสนใจกลับไม่ลอง พุทโธ่! ของประเทศเยอรมันคนของประเทศเขายังยอมรับเองว่ามีปัญหา เพียงแต่เขามีศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน และคนของเขาให้ความเคารพเชื่อถือ แต่บ้านเราไม่ใช่ ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้วฟังกันมั้ย คนไทยชอบพลิกแพลงกันตลอด!!!

เอาเลยเลือกนายกฯโดยตรงนำร่องไปเลย เพียงแต่ครั้งนี้มันจะแตกต่างตรงที่ว่ามีชอยส์เดียวเท่านั้นคือ เอา หรือไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไร้คู่แข่งขันต่อการเอาก็อยู่ต่อ 2 ปี ไม่เอาก็ต้องไปตามโรดแม็ป

และถ้า “ไม่ผ่าน” พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องไปสถานเดียว ไปตามไทม์ไลน์ คืออยู่เต็มที่ไปตามโรดแม็ปเท่านั้น อาจยืดระยะเวลาไปได้นิดหน่อย ไม่ให้น่าเกลียดเกินไป ถ้าอยู่ลากยาวเกินกำหนดมากๆ นอกจากกระแสเกลียดชังแล้วจะผลิดอกออกใบเป็นกระแสขับไล่ ดังนั้นอย่าไปฝืน อย่าไปศรีธนญชัยเด็ดขาด มิฉะนั้นวุ่นวายแน่ พิสจน์กันให้ชัดไปเลยอยากได้นายกฯเด็ดขาดกล้าหาญแบบนี้ หรือต้องการเอานายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง

ประชามตินั้นทำๆไปเถอะไม่มีใครว่า ไอ้ที่ออกมาคัดค้านก็ออกมาพูดให้ดูเท่หรูอยากเด่นดังเท่านั้น เพราะถ้าเทียบกันแล้วทำประชามติแค่ 2-3 พันล้านบาทจิ๊บจ๊อยมาก กับการที่ต้องตกอยู่ในวังวนของการออกมาเดินขบวนขับไล่ ประท้วงกันไปกันมา ชาติล่มจมมาเท่าไหร่แล้ว เสียหายทีละเป็นหมื่นเป็นแสนล้านบาท ไม่มีอะไรสูญเปล่าหรอก ฟันธง!!

วันนี้ทำประชามติวัดใจประชาชนไปเลย พล.อ.ประยุทธ์จะได้อยู่ต่อแบบเท่ๆ และถ้าจะให้สง่างามจริงๆ 50 เปอร์เซ็นต์ไม่พอ ต้องได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ถ้าผ่านตรงนี้แล้ว ถึงแม้รัฐธรรมนูญจะไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร ค่อยมาว่ากันอีกรอบยังได้ ไม่มีใครกล้าค้านแน่ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ได้ฉันทานุมัติมาแล้ว จะทำอะไรคนก็นินทาหมาก็ถูกไม่ได้ จะคิดทำอะไรต่อไปจะสะดวกสบายมากกว่าตอนนี้อีกหลายเท่า

ถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่าน “บิ๊กตู่” ก็มีชอยส์ให้เลือกมากมายก่ายกอง มากกว่าที่วิษณุ เครืองาม ซือแป๋กฎหมายกล่าวไว้ 4-5 ข้อเสียอีก จะโละทิ้งที่กระบิ ทั้ง สปช. กมธ.ยกร่างฯ หรือคงเอาไว้ ตัดทิ้งเฉพาะ กมธ.ยกร่างฯ ล้วนแล้วแต่ทำได้ทั้งนั้น ดีไซน์ได้ตามใจฉัน

แต่ที่สำคัญอีกช็อตหากทำประชามติเฉพาะว่าเอาไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า คสช.ต้องอยู่ต่อ ครม.ต้องอยู่ด้วย ถ้าบิ๊กตู่ยังได้ไปต่อ แต่บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อาจต้องไป ถึงเวลานั้น พล.อประยุทธ์ก็มีอำนาจสิทธิ์ขาดว่าจะเลือกพี่เลิฟ หรือน้องรักคนไหนคัมแบ๊กกลับมาหรือเปล่า แต่ที่สำคัญนั่งแช่กันตูดด้านไม่ได้แล้ว

นอกเสียจากว่าจะทำประชามติพ่วงไปด้วย ก็ไม่อยากจะเดาว่าผลออกมาอย่างไร แต่เดาไม่ยากหรอก!!

กระนั้นก็ตามหากโมเดลนี้ดี รูปแบบเลือกตั้งโดยตรงมันก็เหมือนรูปแบบการเลือกตั้งประธานาธิบดี ถ้าใครบางคนมีทัศนคติที่อันตราย ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะอันตราย ฉะนั้นคนที่ได้รับศรัทธามหาชนมาอยู่บนตำแหน่งนี้ ต้องไม่คิดคด ต้องไปสาบานต่อวัดพระแก้วว่าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

วันนี้บ้านเมืองเราวุ่นวายมามากพอแล้วหรือยัง เคยลองทบทวนกันบ้างหรือเปล่าว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร ระบบการเมืองของเรามันมีปัญหาที่พรรคการเมืองหรือเปล่า ที่มันวุ่นวายก็เพราะพวกนี้ไม่ใช่เหรอ หาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งจากเล็กๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ เล่นกันเลื่อนเปื้อนกันถึงข้างถนน กลายเป็นวัฒนธรรมอุบาทว์ ไม่ว่าพรรคไหนก็พรรคนั้น เอ็งทำได้ ข้าก็ทำได้ วนเวียนอยู่อย่างนี้ และมีแต่หนักข้อขึ้นๆ ไม่ได้มีจิตสำนึกว่าชาติบ้านเมืองจะเสียหายบอบช้ำเพราะความระยำตำบอนเอาประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง บ้านเมืองฉิบหายกลายเป็นธุระไม่ใช่

ดังนั้นก็ล้างบางมันซะเลยด้วยการเลือกตั้งกันแบบตรงๆ โหวตตรง ลองดูกันสักตั้งก็ไม่เสียหาย บ้านเมืองเสียหายมาเยอะแล้วกับระบบเดิมๆ ระบบนี้คงไม่ใช่การลองผิดลองถูกแบบมั่วซั่ว มันมีฐานความคิด มีสมมติฐานที่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และมันยังเป็นการตอบโจทย์ตามที่ กมธ.ยกร่างฯ เที่ยวพร้ำเพ้อพรรณษว่า “พลเมืองจะต้องเป็นใหญ่” ระบบนี้เสียงมหาชนยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว!!!