เลขาฯ สมช.ระบุการถอนพาสปอร์ต-ถอดยศ “นช.แม้ว” ส่วนราชการทำตามกฎหมาย ยังไม่พบคลื่นใต้น้ำ หน่วยงานด้านกาข่าวทำงานเข้มแข็ง เผยนายกฯ สั่งประสานข้อมูลคลี่คลายสถานการณ์ภาคใต้หลังมีโจรขโมยรถที่ยะลา ไม่รู้ “พล.ท.มนัส” เอี่ยวค้ามนุษย์โรฮีนจา รับคาดไม่ถึง
นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังการดำเนินการถอนพาสปอร์ต และถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตว่า ในส่วนของรัฐบาลไม่ได้มุ่งเน้นหรือให้ความสำคัญต่อการเคลื่อนไหว เพราะถือว่าการเคลื่อนไหวเป็นเรื่องปกติของคนที่เห็นไม่เหมือนกัน แต่การไม่ปฏิบัติของส่วนราชการที่มีหน้าที่ต้องทำจะกลายเป็นเรื่องของการละเว้นหน้าที่เสียมากกว่า ฉะนั้นในขณะนี้ส่วนราชการหลายๆ ส่วนพยายามทำหน้าที่ตามบทบาทตามกฎหมายที่กำหนดไว้ ส่วนคลื่นใต้น้ำตนไม่ทราบว่ามีตรงไหนบ้าง ก็ค่อยๆ ดูกันและช่วยกัน อันไหนที่เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องตนว่าสื่อช่วยบ้านเมืองได้ ตอนนี้เราก็ทำงานอย่างเข้มแข็ง แต่ก็หนักหน่อยเพราะงานเยอะมาก ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และนายฉัตรพงษ์ ฉัตราคม ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองก็กำชับในเรื่องการทำงาน
นายอนุสิษฐยังกล่าวถึงการพูดคุยสันติภาพ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีกำหนดในเดือน มิ.ย.นี้ว่า ตนว่าอย่าไปเร่ง เนื่องจากการพูดคุยมีหลายกลุ่ม เราต้องให้เกียรติผู้อำนวยความสะดวกของมาเลเซียในการรวบรวม อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปประเทศมาเลเซีย ได้พูดคุยกับกระทรวงมหาดไทยของมาเลเซีย เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาบริเวณชายแดน ซึ่งก็มีความก้าวหน้าขึ้นเนื่องจากทางมาเลเซียเองก็เป็นประธานอาเซียน
ส่วนกรณีผู้ก่อเหตุที่แต่งการเลียนแบบทหารพรานขโมยรถยนต์ที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีความเชื่อมโยงกับสถานการณ์หรือไม่ เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า เรื่องการขโมยรถตนคิดว่าเป็นสถานการณ์ที่ปกติในพื้นที่ ที่มีการขโมยกันอยู่ตลอด แต่การเฝ้าระวังนั้นสำคัญ ตนได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ลงไปบูรณาการเรื่องข้อมูลในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหา เช่น เรื่องความรวดเร็วในการตรวจสอบกรณีรถหาย สามารถแชร์ข้อมูลเหล่านี้ได้รวดเร็วมากแค่ไหน ซึ่งตนจะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เร็วๆ นี้
สำหรับการแก้ไขปัญหาโรฮีนจา เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า ในเรื่องการอพยพหรือย้ายถิ่นแบบปกติ แน่นอนว่าหากมีผู้หาประโยชน์ต่อไปก็อาจจะกลายเป็นปัญหาเรื่องอาชญากรรม และในระยะเวลาต่อจากนี้ไปอย่างที่ตนเคยกล่าวไว้ว่าอาจจะเห็นอะไรที่บางครั้งอาจเซอร์ไพรส์ เนื่องจากการลงไปสืบสวนสอบสวนอย่างจริงจังของรัฐบาล
ส่วนกรณี พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ที่มีส่วนพัวพันกับการค้ามนุษย์นั้น ทางสมช.ไม่เคยมีข่าวในเรื่องดังกล่าว ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง ทั้งนี้ เราพยายามทำงานในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ มีการจดทะเบียน การกำกับดูแลกันมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางกลุ่มที่แอบแฝง หลบซ่อน ซึ่งการสกรีนคนที่จะมาดูเรื่องเหล่านี้ก็จะมีหน่วยงานแต่ละกระทรวงดูแล เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เป็นปัญหาของประเทศไทยประเทศเดียว แต่เป็นปัญหาของโลก และสหประชาชาติที่ต้องลงมาช่วยกัน ตนก็เชื่อว่าแต่ละหน่วยก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ของตน แต่เมื่อข้อมูลมาแชร์กันในวงกว้างก็ต้องช่วยกัน และเชื่อว่าปัญหาจะเบาบางลง
