“ประยุทธ์” เผย ถอดยศ “ทักษิณ” ตามขั้นตอน ไม่ใช้อำนาจ ม.44 พร้อมอ่าน IG อดีตนายกฯที่พาดพิง ปมถอด พาสปอร์ต บนแท็บแล็ตสื่อ ก่อนส่งทีมที่ปรึกษา แจง ทำตาม กม. ปัดเกลียดชัง “วิลาศ” ติง สื่อบางฉบับถ่ายรูปนายกฯไม่เหมาะ เสียภาพพจน์ผู้นำ เล็งเรียกคุย
วันนี้ (29 พ.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เกี่ยวกับความคืบหน้าการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ตามขั้นตอนเขาว่าอย่างไร หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมติอย่างไรและจะส่งมาที่ตน ก็ให้ส่งมา ตนจะดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ไม่ใช้อำนาจพิเศษตาม ม.44 เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จแล้วก็ต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกฯให้สัมภาษณ์เสร็จ ผู้สื่อข่าวได้ยื่นแทบเล็ตที่มีข้อความ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่โพสต์ลง อินสตาแกรม “thaksinlive” ซึ่งมีการเช็กอินที่ “ราบ 11” โดยมีข้อความว่า “หลังจากที่ได้อุ้มหลานที่สิงคโปร์ วันนี้กลับมาอยู่ดูไบแล้วได้มีเวลานั่งสมาธิเช่นเดียวกับวันว่างทุกวันที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้ได้เพิ่มการแผ่เมตตาให้กับผู้มีอำนาจทั้งหลายได้พ้นจากความโลภ โกรธ หลง เพื่อจะได้มีสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่บริหารแต่อำนาจและสร้างความแตกแยกให้มากยิ่งขึ้น
สำหรับผมเชื่อในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า “ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง” คือ ทุกสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง เมื่อเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็ดับไป พาสปอร์ตก็เช่นกัน ก็ไม่อยากให้เป็นเรื่องวุ่นวายใหญ่โตอะไรกันมากมาย ผมก็ยังเป็นคนเดิมจนกว่าจะลาโลกไป อยากให้คนไทยมีเมตตาต่อกัน กฎหมายและปืนไม่สามารถแก้ปัญหาได้ นอกจากเมตตาเท่านั้น”
ซึ่งนายกฯได้ย้อนกลับมาดูแท็บเล็ต แต่ไม่พูดใดๆ ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที่ จากนั้น รปภ. ของนายกฯ ได้ย้อนลงมาขอยืมแท็บเล็ตดังกล่าว ไปให้นายกฯดูรายละเอียดของข้อความบนตึกไทยคู่ฟ้า ประมาณ 10 นาที ทั้งนี้ ระหว่างที่นายกฯดูข้อความอยู่นั้น หนึ่งในทีมที่ปรึกษาของนายกฯ ได้ลงมากล่าวกับสื่อมวลชน ว่า นายกฯฝากบอก ทั้งหมดที่ทำนั้นไม่ได้ทำเพราะความเกลียดชังแต่ปฏิบัติไปตามขั้นตอนกฎหมาย
จากนั้น พลเอก วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำแท็บเล็ตมาคืน และกล่าวว่า นายกฯฝากบอกว่า เป็นคนของประเทศ ไม่ได้ทำอะไรด้วยอำนาจ ทุกอย่างอยู่ที่กฎหมาย ระเบียบ และความถูกต้อง พร้อมกันนี้ พลเอก วิลาศ ยังได้กล่าวถึงภาพข่าวที่ นสพ. บางฉบับที่เสนอภาพนายกฯรับประทานอาหารกลางวันและคุยกับสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ในกิริยาที่ไม่เหมาะสมว่า “วานนี้ ผมขอกับสื่อว่าอย่าถ่ายภาพ หรือนำภาพไม่เหมาะไปลง ภาพที่ลงถือว่าดูไม่ดีกับความเป็นผู้นำ ตรงนี้ถือว่าเป็นมารยาทและจรรยาบรรณ ผมไม่เหมารวมสื่อทั้งหมด แต่ทราบแล้วว่าเป็นฉบับใด อาจต้องคุยกับบรรณาธิการ แต่อยากบอกสื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของภาพพจน์ หากเราจะยกระดับของประเทศ ทุกคนต้องช่วยกันและย้ำว่า เรื่องของวันนี้ก็เช่นกัน นายกฯบอกว่าการเป็นนายกฯของประเทศ จะใช้แต่อำนาจ ความเกลียดชังอะไรไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายที่ถูกต้อง การเป็นผู้นำประเทศไม่มีความรู้สึกรัก หรือ เกลียด เพราะต้องดูแลคนทั้งหมดด้วยความเที่ยงธรรม”