โฆษก ทบ.ปฏิเสธทหารอุ้มกลุ่มวัยรุ่นย่านลำลูกกาลงโทษ แจง ม.พัน.30 เข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาท ตรวจค้นพบอาวุธอื้อ เตรียมจับส่งตำรวจ แต่ประธานชุมชนขอร้องอย่าดำเนินคดีเพราะเป็นเยาวชน ขอให้ใช้วิธีอบรมและตัดผม จึงทำตามที่แนะนำก่อนปล่อยตัว แต่ผู้ปกครองกลับนำเด็กไปแจ้งความบุกจับลูกไปลงโทษ
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายอาทิตย์ (สงวนนามสกุล) ชาวอำเภอลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมลูกชายและหลานรวม 4 คน เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกกลุ่มทหารเข้ามาค้นบ้านพักภายในซอยพระประสิทธิ์ ย่านลำลูกกา และนำตัวลูกชายพร้อมหลานไปทำโทษที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติว่า จากการประสานทราบว่าหน่วยทหารที่เข้าไปดำเนินการนั้นคือเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารม้าที่ 30 (ม.พัน.30) กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) เนื่องจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกัน จึงนำกำลังพลทหารเข้าไปควบคุมเหตุการณ์ และตรวจสอบ
จากนั้นทำการตรวจค้นในพื้นที่พบอาวุธเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ทหารจึงจะดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมาย แต่ระหว่างนั้นได้มีประธานชุมชนได้เข้ามาขอร้องว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวยังเป็นเยาวชน ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ทหารใช้วิธีการอบรมตักเตือน พร้อมกับขอให้เจ้าหน้าที่ทหารดูแลความเป็นระเบียบเรื่องทรงผมของกลุ่มวัยรุ่นด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทหารจึงนำตัวกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวไปตักเตือนที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ และตัดผมให้ตามการร้องขอของทางประธานชุมชน โดยทางหน่วยฯ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามความสมัครใจ โดยไม่ได้มีการซ้อมหรือขู่บังคับแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้เรียกให้ผู้ปกครองมารับกลับบ้านไป
พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ส่วนที่มีผู้ปกครองเด็กรายหนึ่งไปแจ้งความนั้น พบว่ามีข้อมูลหลายอย่างที่ยังไม่ตรงกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงจะนัดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์มาให้รายละเอียดพร้อมๆ กันอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้ (14 พ.ค.) ว่าข้อเท็จจริงของเหตุการณ์นั้นเป็นอย่างไร จึงจะสรุปผลเดินตามขั้นตอนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านพ.ท.มหิธร บุญครอง ผบ.ม.พัน.30 ได้ทำหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) โดยระบุว่าตามที่มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวว่า “ทหารบุกอุ้มขาโจ๋ ลงโทษ-กล้อนผม พ่อโวยแจ้งความว่ามีเจ้าหน้าทหารบุกรุกบ้านกลางดึกอุ้มตัวไปทุบตีและทำการกล้อนผม” นั้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2558 เวลา 20.30 น. ได้รับแจ้งจากนายวิเชียร หน่องพงษ์ ประธานชุมชนพระสิทธิ์ ลำลูกกาคลองหนึ่ง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานีว่ามีกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 2 กลุ่มไม่ทราบจำนวนกำลังจะยกพวกเตรียมที่จะทะเลาะวิวาทกันและสถานที่ที่เตรียมจะก่อเหตุเป็นที่สาธารณะ มีผู้คนพักอาศัยและสัญจรไปมาจำนวนมาก ถ้าไม่รีบระงับเหตุจะส่งผลให้เกิดเหตุร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นได้ ทางหน่วยจึงมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว และเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายในเรื่องของทำการมั่วสุมเพื่อก่อเหตุ มีอาวุธครอบครองและทะเลาะวิวาท
ทั้งนี้ นายวิเชียรได้เข้าขอร้องกับเจ้าหน้าที่ทหารว่าไม่อยากให้นำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดี เพราะผู้กระทำความเป็นเป็นเยาวชน เกรงว่าจะเสียประวัติ ทำให้เสียอนาคต โดยอยากให้เจ้าหน้าที่ทหารทำการอบรมและตัดผมเพื่อให้เกิดจิตสำนึกและความเรียบร้อยแทนการส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางหน่วยจึงได้ควบคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ บก.ชป.พท.1 ม.พัน.30 พล.ร.2 รอ. ได้ทำการลงโทษด้วยการให้ออกกำลังกาย ตัดผม และอบรมวินัย ตามการร้องขอของประธานชุมชน โดยไม่มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด หลังจากนั้นได้แจ้งให้ผู้ปกครองมารับตัวไปเมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 13 พ.ค. 2558