นายกฯ คาดโทษพื้นที่ไหนมีแหล่งกักกันคุมขังเหยื่อค้ามนุษย์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองต้องรับผิดชอบ ตั้งแต่ผู้ใหญ่บ้าน ยัน นายอำเภอ กำชับทหารตำรวจสแกนทุกตารางนิ้ว พบการกระทำร้ายแรงจะโดนย้ายออกนอกพื้นที่โดยไม่มีเงื่อนไข
วันนี้ (5 พ.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการเพิ่มเติม เรื่องการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ว่า ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและใกล้ชิด โดยให้ฝ่ายปกครองทุกพื้นที่ทั้งระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล ระดับอำเภอ เข้าไปติดตามตรวจสอบพื้นที่ของตนทุกตารางนิ้ว หากปล่อยปละให้มีสถานกักกัน กุมขัง เหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ หรือสนับสนุนให้พี่พักพิงแก่ขบวนการค้ามนุษย์ ฝ่ายปกครองจะต้องรับผิดชอบ โดยมอบหมายให้ปลัดจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบหลัก โดยเฉพาะหากเกิดเหตุร้ายแรงลักษณะเช่นที่เกิดขึ้นที่สะเดาอีก จะต้องย้ายออกนอกพื้นที่ เพราะถือเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายแต่กลับปล่อยปละละเลย
“สำหรับผู้เรียกรับหรือ มีส่วนได้รับผลประโยชน์ จะถูกสอบสวนลงโทษทั้งวินัย และอาญา นอกจากให้ฝ่ายปกครองตรวจสอบพื้นที่ตนเองแล้ว ท่านนายกฯ ยังบัญชาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ลงตรวจสอบพื้นที่ของตนด้วย โดยไม่เพียงติดตามปัญหาการค้ามนุษย์เท่านั้น แต่ต้องตรวจสอบ การกระทำผิดอื่นๆ ทั้งเรื่องการบุกรุกป่า ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล อาชญากรรมร้ายแรง หากพบการกระทำผิดในพื้นที่ และมีเหตุเชื่อว่า เจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจ ให้ดำเนินการย้ายออกนอกพื้นที่ ต้องถูกสอบสวนและลงโทษสถานหนัก เพราะถือว่าเป็นการกระทำผิดต่อหน้าที่อย่างร้ายแรง” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องใช้ยาแรงกับมิจฉาชีพทุกรูปแบบ โดยเจ้าหน้าที่รัฐทั้งท้องถิ่น ท้องที่ ต้องร่วมเป็นทีมปฏิบัติการกับรัฐบาล ตามบัญชาของนายกรัฐมนตรี เพื่อกำจัดสิ่งเลวร้ายที่ฝังรากลึกในสังคมให้หมดไปจากประเทศไทยให้จงได้