ครม.เห็นชอบเปิดด่านสิงขร ประจวบคีรีขันธ์ เชื่อมพม่า พัฒนาการค้า การลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนทั้งสองประเทศ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่านมามีมติเห็นชอบให้ดำเนินการเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยออกประกาศกระทรวงเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน และให้ครอบคลุมทั้งเรื่อง คน ยานพาหนะ สินค้า รวมทั้งแนวทางป้องกันปัญหาหรือผลกระทบอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ยังสั่งการให้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จัดตั้งกลไก กำกับดูแลผลกระทบด้านความมั่นคง และหากกรณีมีความจำเป็นต้องก่อสร้างหรือดำเนินกิจกรรมใดๆ บริเวณชายแดน ให้ประสานกรมแผนที่ทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อนดำเนินการ
“การเปิดจุดผ่อนผันพิเศษ และออกแนวทางกำกับดูแลในครั้งนี้ เป็นความคืบหน้าต่อเนื่องจากการประชุม ครม. สัญจรที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ผ่านมา แม้พื้นที่ดังกล่าวยังมีปัญหาในประเด็นการปักปันเขตแดน แต่ท่านนายกรัฐมนตรีไม่ต้องการให้นำเรื่องนี้มาเป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมการค้าการลงทุน และสร้างโอกาสในกาสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชน”
ทั้งนี้ ด่านสิงขรมีชายแดนติดกับ จ.มะริดของประเทศพม่า มีทิศทางการเติบโตของการค้าชายแดนดี ประกอบกับได้รับความสนใจจากภาคธุรกิจทั้งไทยและพม่าที่จะพัฒนาและลงทุนร่วมกัน แต่ที่ผ่านมาติดขัดปัญหายังไม่สามารถเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรได้ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เยือนพม่าอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 9-10 ตุลาคม 2557 มีการหารือร่วมกับผู้นำพม่า จึงมีความเห็นตรงกันที่จะยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าดังกล่าวเป็นจุดผ่านแดนถาวร สามารถค้าขายระหว่างกันได้โดยเร็ว โดยไม่นำเรื่องเขตแดนเป็นอุปสรรคในการดำเนินการ
“รัฐบาลมีความเชื่อว่าหลังจากเปิดจุดผ่อนการค้าดังกล่าวแล้วจะผลักให้มูลค่าการค้าชายแดนในพื้นที่บริเวณนั้นเติบโตอย่างก้าวกระโดด อำนวยความสะดวกให้แก่ภาคธุรกิจทั้งไทยและพม่าได้มากขึ้น โดยคนพม่าสามารถเดินทางเข้ามาได้ถึงตัว อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เอกสารที่ใช้คือหนังสือเดินทาง บัตรผ่านแดน บัตรผ่านแดนชั่วคราวซึ่งสามารถพำนักอยู่ในเมืองไทยได้ 1 คืน”